ความเร็วที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพ – ขอแนะนำลูกกอล์ฟ Titleist Tour Speed รุ่นใหม่ล่าสุด

ความเร็วที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพ – ขอแนะนำลูกกอล์ฟ Titleist Tour Speed รุ่นใหม่ล่าสุด เปลือกนอกทำจาก เทอร์โมพลาสติกยูรีเทน ประสิทธิภาพสูง สร้างความเร็วได้สูงกว่า พร้อมประสิทธิภาพในการเล่นลูกสั้นที่แม่นยำ

ผลลัพธ์จากการวิจัยและพัฒนานานนับปี ขอแนะนำลูกกอล์ฟ Titleist Tour Speed  รุ่นใหม่ – ลูกกอล์ฟโครงสร้างแบบหลายชั้น ประสิทธิภาพสูง เปลือกนอก ทำจาก เทอร์โมพลาสติกยูรีเทน สูตรเฉพาะ เป็นลูกกอล์ฟที่สร้างความเร็วได้สูงที่สุด และให้ประสิทธิภาพดีที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับลูกกอล์ฟประเภทเดียวกันของแบรนด์คู่แข่ง โดยพิสูจน์ได้จากผลการทดสอบแบบเจาะลึก โดยนักกอล์ฟสมัครเล่นทั่วไป ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าของ Tour Speed มาพร้อมกับคุณภาพที่ยอดเยี่ยม และความสม่ำเสมอสูงสุด อันเป็นผลมาจากกระบวนการผลิตที่แม่นยำของ Titleist

วางตลาดในประเทศไทย และประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้นเดือนตุลาคมนี้ ลูกกอล์ฟ Tour Speed เป็นการวางตลาดลูกกอล์ฟประสิทธิภาพสูงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งรุ่น สำหรับ Titleist ออกแบบด้วยนวัตกรรมล่าสุด โครงสร้างเป็นแบบสามชั้น ตีได้ไกลเป็นพิเศษ ในการเล่นช็อตยาว และให้ความแม่นยำสูง ให้ประสิทธิภาพในการควบลูกที่ยอดเยี่ยม ในการเล่นลูกสั้น อันเป็นผลมาจาก:

• แกนในความเร็วสูง สูตรใหม่ พร้อมเปลือกหุ้มแกนในที่สร้างความเร็วได้สูงสุดของ Titleist ที่สร้างความเร็วลูกกอล์ฟได้สูงสุด และให้สปินต่ำในการเล่นช็อตยาว ทำให้ลูกกอล์ฟ Tour Speed สร้างความเร็วได้สูงกว่า ตีได้ไกลที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับลูกกอล์ฟประเภทเดียวกันของแบรนด์คู่แข่ง

• เปลือกนอกของ Tour Speed ทำจากเทอร์โมพลาสติกยูรีเทน (TPU) โดยผลิตด้วยเทคโนโลยีที่เป็นสูตรเฉพาะสำหรับลูกกอล์ฟ Titleist อันเป็นผลมาจากการทำงานของนักเคมีของทีมวิจัยและพัฒนาลูกกอล์ฟ Titleist ให้เป็นเปลือกนอกที่สร้างสปินได้สูง และให้ประสิทธิภาพในการควบคุมลูกที่ยอดเยี่ยม ในการเล่นลูกสั้นรอบกรีน อีกทั้งยังให้ความรู้สึกนุ่ม ขณะหน้าไม้ปะทะลูก

• ลูกกอล์ฟ Tour Speed ตีได้ไกลเป็นพิเศษ อันเป็นผลมาจากรอยบุ๋มที่เปลือกนอกแบบ 346 รอย ซึ่งเรียงตัวแบบ quadrilateral dipyramid ให้วิถีลูกพุ่งอย่างทรงพลัง และวิถีลูกสม่ำเสมอ

“นักกอล์ฟมั่นใจได้ทุกครั้ง เมื่อใช้ลูกกอล์ฟ Titleist ว่าเขาจะได้รับประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม และเหนือกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับลูกกอล์ฟแบรนด์คู่แข่ง” Michael Mahoney, Vice President, Titleist Golf Ball Marketing กล่าว “นักวิทยาศาสตร์ และวิศวกร ทีมวิจัยและพัฒนาลูกกอล์ฟของเรา ใช้เวลาอย่างยาวนาน ในการพัฒนา Tour Speed – ทั้งการทดสอบแกนในสูตรต่างๆจำนวนมาก และการออกแบบ และทดสอบ รูปแบบของรอยบุ๋มบนเปลือกนอกแบบต่างๆ รวมถึงพัฒนาสูตรทางเคมี และส่วนผสมของเปลือกนอกที่ทำจากเทอร์โมพลาสติกยูรีเทน นับร้อยแบบ เพื่อผลิตลูกกอล์ฟที่ให้ประสิทธิภาพยอดเยี่ยมตามที่ต้องการ เราลงทุนในทุกสิ่งที่จำเป็น ในการออกแบบ และผลิตลูกกอล์ฟรุ่นใหม่เทคโนโลยีล่าสุดนี้ รวมถึงการขยายฝ่ายผลิตที่โรงงาน และเพิ่มไลน์การผลิตโดยเฉพาะ”

การทดสอบแบบเจาะลึกโดยนักกอล์ฟสมัครเล่น

นอกจากการทดสอบโดยหุ่นยนต์ของ Titleist ที่เป็นวิธีการทดสอบมาตรฐานของเราแล้ว ประสิทธิภาพของ Tour Speed ได้รับการยืนยัน และประเมินผลด้วยการทดสอบ โดยนักกอล์ฟสมัครเล่นแบบเจาะลึก ดังนี้:

• การทดสอบตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกา และแคนาดา ซึ่งใช้เวลาถึงสามเดือน เพื่อประเมินผล และรับความคิดเห็นของนักกอล์ฟที่ใช้งานจริง ด้วยลูกกอล์ฟ EXP•01 – ลูกกอล์ฟรุ่นต้นแบบ ที่ถูกสร้างขึ้นระหว่างกระบวนการวิจัย และพัฒนา ซึ่งต่อมากลายมาเป็นลูกกอล์ฟ Tour Speed รุ่นใหม่; และ

• การศึกษาประสิทธิภาพของลูกกอล์ฟ โดยนักกอล์ฟสมัครเล่น นำโดย Fordie Pitts, ทีมวิจัย และพัฒนาลูกกอล์ฟ Titleist ที่ปรึกษาของ PGA Tour ทำการทดสอบลูกกอล์ฟรุ่นต้นแบบ โดยไม่ระบุรุ่นให้นักกอล์ฟที่ทดสอบได้ทราบ ที่ศูนย์ทดสอบ Manchester Lane Test Facility ในรัฐแมซซาชูเซช เพื่อทำการประเมินผลลูกกอล์ฟ Tour Speed รุ่นต้นแบบ เปรียบเทียบกับลูกกอล์ฟ Titleist รุ่นที่วางตลาดในปัจจุบันหลากหลายรุ่น และเปรียบเทียบกับลูกกอล์ฟแบรนด์คู่แข่ง

“ลูกกอล์ฟ Titleist รุ่นใหม่ ทุกรุ่น ต้องให้ประสิทธิภาพสูงกว่าเป้าหมาย หลังจากทดสอบด้วยหุ่นยนต์ และนักกอล์ฟ ก่อนที่จะผ่านกระบวนการวิจัย และพัฒนา เพื่อผลิตสินค้าไปวางตลาด” Scott Cooper, ทีมวิจัยและพัฒนาลูกกอล์ฟ Titleist หัวหน้าทีมวิศวกรพัฒนาลูกกอล์ฟ Tour Speed กล่าว “ข้อมูลทั้งหมดที่เราเก็บรวบรวม และความคิดเห็นจากนักกอล์ฟ ที่เราได้รับ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ลูกกอล์ฟ Tour Speed สร้างความเร็วได้สูงที่สุด ตีไกลที่สุด และนักกอล์ฟที่ทดสอบชื่นชอบมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับลูกกอล์ฟเปลือกนอกทำจากยูรีเทน ประเภทเดียวกันของแบรนด์คู่แข่ง”

ราคา และกำหนดการวางตลาด

ลูกกอล์ฟ Titleist Tour Speed รุ่นใหม่ วางตลาดในประเทศไทย ต้นเดือนตุลาคมนี้ โดยมีราคาตั้ง 2,000 บาท และราคาต่ำที่สุดในการโฆษณา (MAP) 1,599 บาท

เรียบเรียงโดย golfdigg

จองกรีนฟี ออกรอบกว่า 150 สนามกอล์ฟทั่วไทยกับ golfdigg ได้แล้ว
บนเว็บไซต์ หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันฟรีได้ที่