สำหรับนักกอล์ฟที่กำลังมองหาเวดจ์ดีๆ สักอัน ที่นอกจากจะให้ประสิทธิภาพการเล่นลูกสั้นรอบๆ กรีนที่สุดยอดแล้ว ยังมีความสวยงาม ดูดุดัน สะดุดตาวกว่าใคร ลองดูเวดจ์รุ่นใหม่จากค่ายต่างๆ เหล่านี้ดูครับว่า มีอันไหนเข้าตาและน่าจับจองเป็นเจ้าของบ้าง

---

Titleist SM7

ต้นตำรับของเวดจ์ต้องยกให้กับ SM ที่รุ่นนี้ออกมาเป็นรุ่นที่ 7 แล้ว โดยการออกแบบให้ตำแหน่ง CG ของเวดจ์แต่ละเบอร์แตกต่างกัน โดยดูจากเบาวซ์และไกรนด์ของใบเวดจ์ เพื่อให้การควบคุมลูกในแต่ละระยะแอพโพรชเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ร่องหน้าเวดจ์ยังใช้กระบวนการสปิน มิลล์ ตาบแบบฉบับของโวกีย์ ดีไซน์ ให้ได้ร่องหน้าใบที่แน่นอนและแม่นยำ สามารถสร้างสปินได้สูงสุด โดยในเวดจ์องศาต่ำ ออกแบบร่องให้แคบและลึก ขณะที่องศาสูงๆ จะทำร่องให้กว้างขึ้น เพื่อให้การควบคุมและการสร้างสปินออกมาอย่างเหมาะสมในเวดจ์แต่ละเบอร์ เคลือบมาแบบสีดำซึ่งเรียกว่า “JET BLACK”

Callaway MACK DADDY 4

ค่ายแคลลาเวย์ยังคงใช้ เทคโนโลยี Groove in Groove ที่ช่วยเรื่องการควบคุมและสร้างสปินที่ยอดเยี่ยม โดยจะใส่ 20D กรูฟ ในเวดจ์องศาต่ำตั้งแต่ 52 ลงมา เพื่อสร้างสปินในช็อตที่ต้องตีแบบเต็มวง ขณะที่กรูฟแบบ 5D จะใส่มาในเวดจ์องศาสูงตั้งแต่ 54 ขึ้นไป เพื่อการตีออกจากรัฟและการเล่นรอบๆ กรีน ให้การควบคุมที่ดีขึ้น มีการแบ่งชนิดออกไปตามการใช้งานด้วยการออกแบบส่วนไกรนด์ที่แตกต่างกัน ทั้ง C,X ที่ทำมาเพื่อนักกอล์ฟที่ชอบการเล่นลูกสั้นที่หลากหลาย หรือการเล่นแบบเปิดหน้าเหล็กเยอะ ส่วน  W และ S ออกแบบมาเพื่อนักกอล์ฟที่เล่นลูกชิพแบบเต็มหน้าไม้ ร่องกลมๆ 4 ร่องด้านหลังและการกลึงใบเวดจ์เพื่อให้สามารถเลื่อนตำแหน่ง CG ให้สูงขึ้นตามองศาของเวดจ์ได้ เพื่อความรู้สึกที่หนักแน่นในการตีทุกๆช็อต

Cleveland RTX 4 BLACK SATIN

อีกหนึ่งค่ายที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเรื่องของเวดจ์ โดย RTX4 นี้ เสริมรุ่นที่เคลือบสีแบบซาตินเพื่อลดแสงสะท้อน เสริมด้วยกระบวนการ PVD เพื่อให้อายุการใช้งานที่ทนทานขึ้น ร่องหน้าเหล็กใช้เทคโนโลยี Rotex ซึ่งเป็นรุ่นที่ 4 แล้ว เซาะร่องด้วยเลเซอร์ด้วยความแม่นยำ ทำให้สามารถสร้างสปินด้วยความแน่นอนในทุกช็อต รูปทรงแบบใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจากนักกอล์ฟในทัวร์ เวดจ์องศาต่ำออกแบบให้ใกล้เคียงกับชุดเหล็ก ขณะที่องศาสูงๆ ยังออกแบบให้เป็นแบบดั้งเดิม เพื่อให้ยังคงความรู้สึกเหมือนกับการเล่นเวดจ์ปกติ มีการเสริมด้านหลังใบเวดจ์เพื่อให้สามารถปรับตำแหน่ง CG ทั้งในแนวนอนและแนวตั้งให้ได้ค่าที่เหมาะสม สร้างความรู้สึกและควบคุมระยะได้แม่นยำขึ้น

Taylormade Milled Grind Black

เวดจ์จากเทยเลอร์เมด รุ่น Milled Grind ที่เพิ่มความดุดันด้วยสีดำ ให้ความหนักแน่นเวลาที่จรดลูก ช่วยลดแสงสะท้อนได้ดีขึ้น ร่องหน้าเวดจ์ในเทคโนโลยี ZTP ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของค่ายนี้ ช่วยสร้างสปินให้สุงสุด ส่วนของไกลนด์ที่ออกแบบมาให้กลมกลืนกับใบ เซาะมาเป็นร่องๆ เพื่อช่วยในการตีผ่านพื้นผิวต่างๆ ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเวลาเจอสภาพรัฟหนา เสริมความมั่นใจให้กับนักกอล์ฟเวลาเล่นช็อตต่างๆ

Ping Glide 2.0 Stealth

ต้องยอมรับว่าค่ายปิงมีชื่อเสียงเรื่องการออกแบบเวดจ์มายาวนาน ตั้งแต่รุ่นก่อนๆ จนพัฒนามาถึงรุ่นใหม่นี้ ใช้วัสดุคาร์บอนสตีล 8620 และเซาะร่องด้วยความแม่นยำเพื่อสร้างความรู้สึกที่นุ่มนวลและสร้างสปินได้สูง ทั้งในสภาพผิวที่เปียกและแห้ง สามารถฟิตติงให้เหมาะสมกับการเล่นของแต่ละคนได้ โดยการออกแบบส่วนท้องใบและไกรนด์ที่ต่างกัน เพื่อการเล่นที่หลากหลาย เสริมการเซาะร่องแบบครึ่งๆ บริเวณสันของร่องหน้าเหล็กในเวดจ์องศาสูง (56,58,60) ทำให้สามารถเพิ่มสปินให้ลูกกอล์ฟได้ดียิ่งขึ้น 

Mizuno S18

เวดจ์ที่ออกแบบมาเฉพาะตัว โดยในเวดจ์องศาสูง จะมีการเลื่อนน้ำหนักขึ้น เพื่อการสร้างสปินที่แน่นอน แม่นยำ  ส่วนด้านบนของใบออกแบบให้หนาเพื่อสร้างสปินที่แน่นอนเวลาที่ตีโดนส่วนบนของใบเวดจ์ ใช้วัสดุโบรอนที่มีความทนทานและแข็งแกร่งสูง รวมทั้งยังใช้สกระบวนการ Grain Flow Forged ที่โด่งดังของค่ายนี้ในการผลิต ร่องใบใช้เทคโนโลยี Quad Cut groove ทำให้ได้สปินสูงสุดตามมาตรฐานของ USGA / R&A

---

เรียบเรียงโดย golfdigg

จองกรีนฟี ออกรอบกว่า 150 สนามกอล์ฟทั่วไทยกับ golfdigg ได้แล้ว
บนเว็บไซต์ หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันฟรีได้ที่