Article
golfdiggTODAY Journey EP.5 โปรมาย ตรีฉัฐ เส้นทางกอล์ฟอาชีพที่เกินคาด
อยากใช้ชีวิตในทัวร์แบบเล่นทำงานให้มีความสุขที่สุด แต่ถ้ามีโอกาสได้กลับไปเล่นในแอลพีจีเอ ก็อยากกลับไป จะกลับไปควอลิฟายอยู่ทุกปี จนแบบร่างกายไม่ไหว ถ้าปีนี้มีโอกาสอีกก็จะกลับไปค่ะ อยากรู้ว่าตัวเองไปได้ถึงตรงไหนมากกว่า

ช่วงฮอนด้าแอลพีจีเอที่ผ่าน golfdiggTODAY มีโอกาสไปสัมภาษณ์ “โปรมาย” ตรีฉัฐ จีนกลับ” โปรสาวที่โลดแล่นอยู่ใน เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยนทัวร์ (LET) โดยในปี 2023 เธอได้คว้าถึง 2 รางวัลใหญ่กอล์ฟเลดี้ส์ ยูโรเปียนทัวร์ ประจำฤดูกาล ทั้งนักกอล์ฟมือหนึ่ง และนักกอล์ฟหน้าใหม่ยอดเยี่ยมมาครองได้อย่างเต็มภาคภูมิ
ใบหน้าที่ยิ้มแย้มชวนให้ golfdiggTODAY อยากรู้จักเธอมากขึ้น ทั้งเส้นทางการเป็นนักกอล์ฟอาชีพ ไปจนถึง Mindset ในการเล่นกอล์ฟและการใช้ชีวิต
จุดเริ่มต้นที่ทำให้โปรมายเล่นกีฬาคือ ‘ครอบครัว’ แต่กีฬาแรกที่ลงแข่งคือ ‘ว่ายน้ำ’
“เด็กๆ แม่กับพ่อชอบให้เล่นกีฬา คือเริ่มจากว่ายน้ำแบบจริงจังแข่งชิงเหรียญเลย หลังจากว่ายน้ำ ช่วงนั้นพี่ภราดร กับแทมารีนดัง คุณแม่ก็เลยลองให้เล่นเทนนิสดูค่ะ แล้วก็เล่นได้ดี เลยเล่นมาตั้งแต่ 8 ขวบจนถึง 12 เลยค่ะ เล่นแบบแข่งเลยนะ”
หลังจากนั้นคุณพ่อเห็นว่ากีฬากอล์ฟเริ่มได้รับความนิยม จึงเสนอให้ลูกสาวลองเล่นดู

“จำได้ว่าแมตช์สุดท้ายที่ตีเทนนิส แข่งแมตช์นั้นจะมีสนามกอล์ฟอยู่ในนั้นด้วย คือสนามกอล์ฟภาณุรังษี พอแข่งแมตช์นั้นเสร็จเราก็เลยมาซ้อมไดร์ฟต่อค่ะ ก็เลยรู้สึกว่าเป็นกีฬาที่น่าสนใจดีเหมือนกัน”
พอถึงช่วงวัยที่ต้องสอบเข้ามัธยมจึงเกิดไอเดียอยากใช้โควต้านักกีฬา เพราะไม่อยากอ่านหนังสือสอบ จึงมุมานะซ้อมอยากหนัก 1 ปีเต็ม
“เราก็มาจริงจังซ้อมปีนึงเต็ม ๆ เลยค่ะ เพื่อที่จะสอบเข้าโรงเรียนด้วยการใช้กอล์ฟเป็นโควต้า ก็เลยเข้าโรงเรียนหอวังได้”
จุดเปลี่ยนที่ทำให้อยากเป็นนักกอล์ฟอาชีพ
“ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะต้องเป็นนักกอล์ฟอาชีพ คุณพ่อกับคุณแม่ก็ไม่ได้กดดันว่าต้องเล่นเพื่อเป็นนักกอล์ฟอาชีพ จุดเปลี่ยนมันมาอยู่ตอนมหา’ลัย เขามีกีฬามหา’ลัยแต่ว่าตัวนักกีฬาขาดคนนึง เขาหาผู้หญิงที่พอจะเล่นกอล์ฟให้มหา’ลัยได้ ก็มีประกาศตามหาบนหน้าเว็บไซต์ เพื่อนก็บอกให้ไปสิ หนูก็เลยโอเคไปสมัคร เลยได้เล่นกีฬามหา’ลัยโลกอยู่ปีนึงค่ะ และได้ไปแข่งที่เกาหลี”
“เราไม่ค่อยได้ซ้อมด้วยแต่เราดันคัดตัวผ่าน มันเหมือนมันยังมีไฟอยู่ ยังพอเล่นได้อยู่ ตอนนั้นคัดตัวมหา’ลัยทั่วประเทศเอา 3 คน ก็ได้ที่ 3 พอดี ได้ไปที่เกาหลี พอจบกีฬามหา’ลัยโลกก็เทิร์นโปรเลยเพราะว่าชอบ”
“พอได้ไปแข่ง ได้ไปเจอเพื่อนต่างประเทศแล้วแบบ เราเห็นคนเกาหลีตี เพื่อนคนอเมริกาตี โห เขาเก่งมาก แล้วตอนนั้นคือเราแทบจะสู้เขาไม่ได้ คือทีมไม่ได้เหรียญอะไรเลยด้วยซ้ำ ก็เลยอยากกลับมาซ้อม มาพัฒนาตัวเอง ก็เลยตัดสินใจเทิร์นโปรตอนปี 2”
ปีแรกของการเป็นนักกอล์ฟอาชีพ
“กดดันมาก ค่อนข้างมากเลย ปีแรก ๆ ที่เทิร์นโปร ตอนนั้นเล่นแค่ไทยแอลพีจีเอ (TLPGA) ก็ยังลุ้นว่าจะผ่านเข้ารอบไหม เพราะเจอเพื่อน ๆ รุ่นเก่า ๆ ที่เล่นด้วยกันสมัยเด็ก ๆ เขาก็เก่งขึ้นด้วย แล้วเราก็เพิ่งกลับมาด้วย ตอนนั้นก็ท้อเหมือนกัน แต่ถามว่าฝีมือสู้ได้ไหม พ่อบอกไปได้ สู้ได้ เราตัวใหญ่อะ ระยะเราไดร์ฟไกล เราสู้ได้ แค่แบบเก็บช็อตอีกนิดหน่อย ช็อตลูกสั้น”

ความกดดันในเส้นทางกอล์ฟอาชีพ
“ปีสองปีแรกร้องไห้เกือบทุกแมตช์เลย บางทีมันก็เสียดายที่ตกรอบแต้มสองแต้ม ตอนนั้นมายรู้สึกว่า มายไม่ได้ตีสู้คนอื่นในทัวร์ไม่ได้ แค่ประสบการณ์แข่งเรายังน้อยอยู่ ตอนนั้นแข่งไปด้วยเรียนไปด้วยค่ะ ก็เลยยังไม่ได้แบบกดดันมาก เพราะว่าเราก็เน้นเรียนด้วย เราก็พอจะประเมินตัวเองได้ว่าเราไม่ได้เต็มที่กับกอล์ฟค่ะ”
แต่พอเรียนจบแล้วตอนนั้นเธอเล่าว่าคือช่วงที่กดดันที่สุด
“ตอนนั้นไปควอลิฟาย ไต้หวันทัวร์กับไชน่าทัวร์ กำเงินเก็บที่แม่ให้ไปโรงเรียน เพราะพ่อกับแม่ก็คุยกันว่าซัพพอร์ตไม่ได้แล้ว แต่ว่าใจเรายังรักอยู่ อยากที่จะทำมันเป็นอาชีพก็เลยลงทุนกับตัวเองค่ะ”
ไปควอลิฟายใช้ทัวร์ละประมาณ 100,000 บาท ตอนเรียนจบก็คือซ้อมเต็มที่เลยก่อนแข่ง 2-3 เดือน ซ้อมทุกวัน วันละ 7-8 ชั่วโมงได้ ก็เสริมกับฟิตเนสด้วย ซ้อมด้วย แล้วพอไปควอลิฟายครั้งแรกก็คือผ่านเลย 2 ทัวร์ ดีใจมาก มันก็เลยเป็นเหมือนกำลังใจว่า เฮ้ย เราสู้คนอื่นได้ ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ซ้อมเต็มที่แบบคนอื่น
ความรู้สึกที่ต้องพัตต์เพื่อคว้าแชมป์ในหลุมสุดท้ายเป็นยังไง ?
“มือสั่นมาก พยายามไม่โฟกัสกับคนดูรอบข้าง มายว่าทุกคนกดดันมาก ๆ ต่อให้จะยืนซ้อมระยะนั้น ไลน์นั้นมาเป็นร้อย ๆ ลูกอะ มันมีความกดดันมากขึ้น”
โดยสิ่งแรกที่เธอจะทำ คือการหายใจเข้าลึก ๆ ให้ข้างในนิ่งที่สุด และคิดถึงช่วงเวลาที่ซ้อมลูกนั้น ก่อนจะพัตต์ออกไปอย่างมั่นใจ
“มายจะมั่นใจที่สุด จะไม่กล้า ๆ กลัว ๆ ในการพัตต์ลูกนั้นลงหลุมไป เพราะว่ามันเป็นแค่ช็อตเดียว สองสามวินาทีตรงนั้นที่เราพัตต์ออกไป ถ้าเราไปกล้า ๆ กลัว ๆ มันก็ช็อตเดียวเหมือนกัน บอกตัวเองว่าต้องลง ลงแน่นอน ต้องมั่นใจ“
แล้วถ้าถ้าช็อตนั้นไม่ลง…
“ก็ไม่เป็นไรค่ะ แค่พูดกับตัวเองว่าโอเค ไม่เป็นไร เราทำเต็มที่ ถ้าเราทำเต็มที่มายว่ามายไม่รู้สึกเสียดายเลยค่ะ แต่จะมีลูกนึงที่จะตื่นเต้นมากกว่าคือ ลงแล้วต้องเข้ารอบ อันนี้ตื่นเต้นกว่า อาจจะเป็นลูกที่กลัวมากกว่าได้แชมป์อีกค่ะ เพราะว่าถึงแม้ว่าเราไม่ได้แชมป์ แต่เราทำผลงานออกมาดี”
ตอนนี้มีความสุขกับอาชีพนี้มากแค่ไหน ?
เกินความคาดหมายไปเลยค่ะ แต่ก่อนไม่ได้คิดว่ามันจะสนุกขนาดนี้ ยิ่งเปลี่ยนไปเล่นทัวร์จากเอเชียไปยุโรปด้วย รู้สึกสนุกมากขึ้น
วางเป้าหมายในเส้นทางนักกอล์ฟอาชีพยังไง ?
“แอลพีจีเอ ทัวร์ เป็นเป้าหมายสูงสุดแล้วค่ะ แต่ถ้ามาถามตอนนี้มีเป้าหมายอะไรมั้ย? ตอนนี้ไม่ได้มีเป้าหมายว่าแบบจะต้องแชมป์หรืออะไร แต่ถ้าได้แชมป์ LET ก็ดีค่ะ”
อยากใช้ชีวิตในทัวร์แบบเล่นทำงานให้มีความสุขที่สุด แต่ถ้ามีโอกาสได้กลับไปเล่นในแอลพีจีเอ ก็อยากกลับไป จะกลับไปควอลิฟายอยู่ทุกปี จนแบบร่างกายไม่ไหว ถ้าปีนี้มีโอกาสอีกก็จะกลับไปค่ะ อยากรู้ว่าตัวเองไปได้ถึงตรงไหนมากกว่า
การเตรียมพร้อมสภาพจิตใจ ของโปรมายในเส้นทางการเป็นนักกอล์ฟอาชีพ
ตามจริงคนที่จะสามารถช่วยในเรื่องของ Mental ในตัวนักกีฬาได้ มายว่าตัวเอง หลัก ๆ เลยสำคัญมาก ให้กำลังใจตัวเยอะ ๆ
สองคือ ‘ครอบครัว’ ถ้ามีครอบครัวซัพพอร์ตให้กำลังใจ เข้าใจเรา แล้วก็กำลังใจจากแฟน ๆ ทุกคนที่ส่งข้อความมา ตามจริงอันนี้สำคัญกับมายมาก เป็นกำลังใจนิดนึงให้รู้ว่ามีคนติดตามเราอยู่ มีคนคอยเชียร์เราอยู่นะ
บทเรียนที่ได้จากการเป็นนักกอล์ฟอาชีพที่ปรับใช้ในชีวิตได้
“เอาจริง ๆ สภาพจิตใจคือหนักสุดเลยค่ะ มายว่ามันปรับเอามาใช้ตรงที่ ชีวิตเราไม่มีอะไรแน่นอนอยู่แล้ว ทำยังไงที่เราจะรับสภาพช่วงเวลานั้นให้ได้ เพราะว่าเราไม่มีวันที่เจออะไรดี ๆ ทุกวันอยู่แล้ว มันก็จะมีวันที่แย่ ๆ แต่ว่าให้เรารู้สึกว่าโอเควันแย่ ๆ มันก็เป็นบทเรียนอีกวันนึงค่ะ วันต่อไปถ้าเราเจอเรื่องหนักกว่านี้เราจะได้รับมือมันไหว”
ในฐานะรุ่นพี่ ฝากถึงน้อง ๆ ที่ฝันจะเป็นนักกอล์ฟอาชีพหน่อย
“การเป็นนักกอล์ฟมันดีมากเลย ถึงมันจะมีช่วงเที่เราดาวน์มาก ๆ เสียใจมาก ๆ แต่มันเป็นอาชีพที่อิสระ สนุกมากได้ผจญภัยได้ไปเที่ยวด้วย คิดว่าน้อง ๆ มาถูกทางแล้ว อย่าเพิ่งท้อให้อดทนกับมันนิดนึงค่ะ”

“บางคนตีมาเป็นสิบ ๆ ปี เพิ่งได้แชมป์ก็มี หรือบางคนที่รู้จักตัวเองช้าไป ถ้าคิดว่าเริ่มกอล์ฟตอนอายุ 20-25 มันสายเกินไปไหม ไม่มีคำว่าสายเลย เพราะว่าพี่มายเองก็เริ่มเทิร์นโปรตอน 22-23 แล้วก็มาจริงจังกับมัน 24-25 เหมือนกัน เชื่อมั่นในตัวเองก่อนว่าเราทำได้แล้วเดี๋ยวเราจะทำมันได้ค่ะ”
เรียบเรียงโดย golfdigg

จองกรีนฟี ออกรอบกว่า 150 สนามกอล์ฟทั่วไทยกับ golfdigg ได้แล้ว
บนเว็บไซต์ หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันฟรีได้ที่