เชื่อเหลือเกินครับว่านักกอล์ฟจำนวนมากมักจะมี ‘วิธีการเลือกลูกกอล์ฟ’ ที่แตกต่างกันไป บางคนเลือกที่ราคา บางคนพิจารณาจากความชอบส่วนตัว หรือบางคนมีความสนใจมากหน่อย ก็จะเลือกโดยการทดสอบว่าเหมาะสมกับสวิงของตนเองหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อลูกกอล์ฟมาใช้งานทั้งสิ้น

 

ปัจจุบันลูกกอล์ฟจำนวนมากถูกผลิตออกมาให้เลือกหลายรุ่น หลายแบบ แล้วแบบไหนที่เราควรเลือกซื้อ วันนี้ golfdiggTODAY ขอแนะนำขั้นตอนง่าย ๆ ในการพิจารณาเลือกลูกกอล์ฟครับ   

1. เลือกที่ความเหมาะสม

คงไม่มีใครอยากจะลองเทสต์ลูกกอล์ฟรุ่นใหม่ ๆ ตลอดเวลา เพราะมันคงตลกที่จะลองลูกกอล์ฟที่ออกมาใหม่เรื่อย ๆ เพื่อดูว่ามันเหมาะกับเกมการเล่นของคุณไหม ทางที่ดีคือโฟกัสไปที่การทำสกอร์ให้ดีมากกว่า ฉะนั้นจึงควรเลือกลูกกอล์ฟที่เหมาะกับคุณทั้งเรื่องของราคาและวงสวิง และยึดเอารุ่นนั้นเป็นหลัก แต่ถ้าจะเลือกยี่ห้อใหม่ก็ขอให้มีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกันที่สุด โดยเฉพาะเรื่องของสปินและความรู้สึกเวลาตี เพราะจะทำให้ผลงานของคุณมีความสม่ำเสมอ    

2. เหมาะสมกับเหล็ก, เวดจ์และพัตเตอร์

แน่นอนว่าชอทแอพโพรช ลูกสั้นและการพัตต์คือตัวตัดสินคะแนนในสกอร์การ์ด ดังนั้นชอทต่าง ๆ เหล่านี้จึงสำคัญเป็นอย่างยิ่ง การหาลูกกอล์ฟที่สามารถเข้ากับจังหวะการตีและเหมาะสมกับการเล่นในระยะต่าง ๆ จึงจำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะระยะทำสกอร์แบบนี้ จึงควรเน้นเลือกลูกที่เข้ากับการเล่นด้วยชอทหวังผล แล้วค่อยขยับไปโฟกัสกับการเล่นด้วยไดร์ฟเวอร์หรือเหล็กยาว 

3. ยอมลงทุนเพิ่มอีกนิด

ยังมีนักกอล์ฟจำนวนไม่น้อยที่ยังเลือกซื้อลูกกอล์ฟราคาไม่แพงมากนักเพราะคิดว่ามันไม่จำเป็นหรือมีผลกับการตีของตัวเองสักเท่าไหร่ รวมถึงบรรดามือใหม่หลายคนที่กลัวว่าจะเสียลูกกอล์ฟเหล่านั้นจากการตีพลาดบ่อย ๆ อย่างไรก็ดีเราอยากแนะนำให้คุณลองใส่ใจที่คะแนนและเกมการเล่นของคุณเพิ่มอีกนิด ยอมจ่ายค่าลูกกอล์ฟที่แพงขึ้น แต่ได้คุณสมบัติดีขึ้นหน่อย เพราะสมัยนี้ลูกกอล์ฟที่ดี ๆ ก็ไม่ได้แพงอย่างที่คิดและยังมีหลายแบบที่แต่ละแบรนด์สร้างออกมาให้มีความแตกต่างกัน โดยเอาคุณสมบัติในทัวร์มาใส่ในลูกกอล์ฟราคาระดับปานกลาง ดังนั้นซื้อไปเถอะ ยอมลงทุนนิดหน่อยเพื่อสกอร์ที่ดีขึ้น 

4. ดูความเร็วให้เหมาะสม 

เราอาจจะคุ้นเคยว่านักอล์ฟในทัวร์สามารถตีได้ระยะไกล ๆ จากการเลือกลูกกอล์ฟที่มีค่าคอมเพรสชั่นสูง ๆ เปลือกแข็งนิดหน่อยซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มความเร็วลูกกอล์ฟและพลังในการตี แต่สำหรับนักกอล์ฟทั่ว ๆ ไปอย่างเรา ไม่ได้มีความเร็วสวิงขนาดนั้น จึงควรเลือกลูกกอล์ฟที่มีค่าคอมเพรสชั่นต่ำลงมาหน่อย ซึ่งปัจจุบันมีการผลิตให้มีความนุ่ม แกนกลางมีค่าคอมเพรสชั่นต่ำเพื่อให้มีคุณสมบัติเหมาะสมกับนักกอล์ฟส่วนใหญ่ และยังให้ประสิทธิภาพในการทำสกอร์ที่ดีอีกด้วย 

5. เปลี่ยนใหม่ดีกว่า 

 

“เมื่อเราตีไปเรื่อย ๆ แล้วฟีลลิ่งในการตีเปลี่ยนไป
นั่นอาจเป็นสัญญาณบอกคุณว่า ถึงเวลาเปลี่ยนลูกแล้ว”

ต้องยอมรับว่าลูกกอล์ฟรุ่นใหม่มีความทนทานสูงมาก นักกอล์ฟจำนวนไม่น้อยจึงยังทนใช้ลูกเดิม ๆ อยู่ แต่อย่าลืมว่าลูกกอล์ฟเก่า ย่อมมีผลกับระยะที่คุณเล่นอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นไดร์ฟเวอร์ที่อาจจะสั้นลง ตีเวดจ์ความแม่นยำหรือสปินน้อยลง ดังนั้นยอมใช้ลูกใหม่ ๆ เพื่อผลงานที่ดีขึ้นในสนามจะดีกว่า

---

เรียบเรียงโดย golfdigg

จองกรีนฟี ออกรอบกว่า 150 สนามกอล์ฟทั่วไทยกับ golfdigg ได้แล้ว
บนเว็บไซต์ หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันฟรีได้ที่