กฎกอล์ฟฉบับใหม่! ไฉไลกว่าเดิม (จริงหรือ?)

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา R&A และ USGA ซึ่งเป็นผู้กำหนดกฎระเบียบในกีฬากอล์ฟที่รองรับการเล่นและการแข่งขันทั่วโลก ได้เผยว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกฎใหม่ โดยจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม ปีหน้า

ซึ่งจะมีอะไรบ้างที่เปลี่ยน แล้วจะส่งผลกับนักกอล์ฟแค่ไหน?
วันนี้ golfdiggTODAY มีคำตอบ

ว่ากันตามตรง นักกอล์ฟในบ้านเราส่วนใหญ่จะใช้กฎของสนามกันอยู่แล้ว หรือบางครั้งก็อาจจะเป็นกฎที่เกิดจากพวกๆ กันเอง ซึ่งจะเกิดขึ้นกับก๊วนวีคเอ็น กอล์ฟเฟอร์ หรือมือสมัครเล่นทั่วไป ถ้าจะบอกว่ามีผลกระทบมากไหม ก็คงตอบได้ครับว่าไม่มาก แต่หากเป็นการแข่งขันที่จริงจังหรือการแข่งขันระดับอาชีพ หากท่านต้องการจะพัฒนาฝีมือให้เป็นนักกอล์ฟมือดี สามารถไปประชันขันแข่งกับคนอื่นๆ ได้อย่างไม่อายใคร ผมว่าควรเรียนรู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงกฎใหม่นี้เอาไว้บ้างก็ดีครับ

R&A และ USGA เผยว่ากระบวนการเปลี่ยนแปลงกฎนี้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2012 และพยายามทำให้นักกอล์ฟทุกระดับฝีมือ เข้าใจได้ง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้และทำให้เกมการเล่นนั้นสนุก ท้าทายยิ่งขึ้นสำหรับนักกอล์ฟหน้าใหม่ ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากคอมเมนต์บรรดานักกอล์ฟทั้งมือสมัครเล่นและอาชีพจากทั่วโลก ที่อาจจะไม่เห็นด้วยกับกฎบางกฎที่ออกมาก่อนหน้านี้และอยากให้มีการปรับให้เหมาะสมกับยุคสมัยมากขึ้น ทั้งนี้ เดวิด ริคแมน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของ R&A เปิดเผยว่า

นั่นเองจึงเป็นที่มาของการประกาศใช้กฎใหม่ในปีหน้านี้ครับ หากจะนับเอาข้อที่มีการปรับเปลี่ยนมาลงอย่างละเอียดคงต้องใช้เวลาและความชัดเจนจากเจ้าหน้าที่เรื่องกฎโดยเฉพาะ เอาเป็นว่ากฎใหม่ที่เปลี่ยนแปลงแบบคร่าวๆ ที่เราควรจะทราบก็มีหลายประเด็น อาทิ

– การดรอปลูก เมื่อนักกอล์ฟต้องดรอปลูกจากเขตอุปสรรคหรือจุดผ่อนปรน นักกอล์ฟสามารถดรอปลูกที่ความสูงระดับหัวเข่าได้ ซึ่งจากเดิมอาจจะดรอปในระดับหัวไหล่หรือสูงกว่า แต่ตอนนี้สามารถทำได้ในระดับหัวเข่า ซึ่งจะให้ตำแหน่งหรือจุดดรอปที่แม่นยำ ถูกต้องโดยไม่ต้องเดาตำแหน่งที่ลูกตกเวลาดรอปลูก

– พื้นที่การดรอปลูกกอล์ฟ แต่เดิมจะใช้การวัดด้วยไม้กอล์ฟที่ยาวที่สุดในถุงกอล์ฟ ระยะระหว่าง 1-2 ช่วงความยาวไม้กอล์ฟนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์หรือพื้นที่นั้นๆ แต่แบบใหม่จะใช้ความกว้างในการกำหนดพื้นที่ดรอปลูก 20 ถึง 80 นิ้ว ซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้นักกอล์ฟสามารถมีพื้นที่การดรอปที่ชัดเจนและเคลียร์มากขึ้น

– มีการยกเลิกกฎการลงโทษเมื่อนักกอล์ฟตีถูกลูกกอล์ฟ 2 ครั้ง ขณะที่ขึ้นไม้สโตรกลูกเพียงครั้งเดียว โดยนักกอล์ฟสามารถนับเป็น 1 สโตรกได้ กฎเดิมนั้นหากตีถูกลูกกอล์ฟ 2 ครั้ง ก็จะนับเป็น 2 สโตรกทันที

– ลูกกอล์ฟหายหรือออกนอกเขตโอบี กฎสนามใหม่สามารถระบุได้ว่า นักกอล์ฟตีลูกออกนอกเขตโอบีหรือตีไปแล้วหาลูกกอล์ฟไม่เจอ สามารถให้นักกอล์ฟดรอปลูกในบริเวณที่คาดว่าลูกจะหายไป หรือออกนอกเขตบริเวณใกล้เคียงนั้นๆ ซึ่งรวมถึงพื้นที่ใกล้ๆ แฟร์เวย์ด้วย โดยมีโทษปรับ 2 สโตรก ซึ่งจะช่วยให้การเล่นนี้เร็วยิ่งขึ้น ไม่ต้องเสียเวลากลับไปตีที่ทีออฟ อย่างไรก็ดีกฎใหม่นี้จะใช้ไม่ได้กับนักกอล์ฟมือดีหรือนักกอล์ฟอาชีพ

– ยกเลิกหรือลดโทษ หากทำให้ลูกเคลื่อนที่แบบไม่ตั้งใจ หากนักกอล์ฟทำลูกที่อยู่บนกรีนเคลื่อนหรือขณะหาลูกกอล์ฟที่สูญหายแล้วไปโดนโดยไม่ตั้งใจ จะไม่มีการปรับโทษ และนักกอล์ฟไม่ต้องรับผิดชอบที่ทำให้ลูกเคลื่อนที่เว้นแต่เกิดจากความตั้งใจ

– นักกอล์ฟสามารถพัตต์ลูกบนกรีนได้ แม้ว่าจะมีหรือไม่มีธงปักอยู่ในหลุมก็ตาม โดยจะไม่มีโทษปรับแม้ว่าลูกจะไปโดนธงแล้วลงหลุม และนักกอล์ฟสามารถซ่อมรอยรองเท้าหรือความเสียหายของกรีนที่เกิดจากรองเท้ากอล์ฟและอื่นๆ ได้นอกจากนี้ยังไม่มีการปรับโทษหากไปโดนเส้นทางการพัตต์ของผู้เล่น ยกเว้นว่าจะเป็นการปรับแต่ทางเดินการพัตต์

– จะไม่มีการปรับโทษสำหรับการเคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวางในบังเกอร์หรือเวลาที่มือหรือไม้กอล์ฟสัมผัสกับทรายแต่หากเป็นการซ้อมสวิงหรือขึ้นแบคสวิงก็ยังคงมีโทษเช่นเดิม นอกจากนี้หากลูกกอล์ฟที่อยู่ในบังเกอร์ไม่สามารถเล่นได้ ก็สามารถนำลูกมาเล่นนอกบังเกอร์ได้ โดยจะมีโทษปรับ 2 สโตรก

– มีการลดเวลาการหาลูกกอล์ฟกรณีที่นักกอล์ฟตีลูกไปแล้วหาไม่เจอจาก 5 นาที ลงเหลือ 3 นาที นอกจากนี้ยังมีการเสนออีกว่าผู้เล่นไม่ควรจะเล่นเกิน 40 วินาที ต่อการเล่น 1 สโตรก เพื่อช่วยให้การเล่นนั้นเร็วขึ้น

นี่อาจจะเป็นบางส่วนของการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในปีหน้านี้ แน่นอนว่าจุดประสงค์นั้นเขาต้องการให้การเล่นสนุกขึ้น รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าการปรับครั้งนี้จะเป็นอย่างที่หวังเอาไว้หรือไม่ครับ แต่ที่แน่ๆ กฎใหม่บางข้อช่วยผมได้เยอะเลยครับ

อ้างอิง:
www.usga.org

เรียบเรียงโดย golfdigg

จองกรีนฟี ออกรอบกว่า 150 สนามกอล์ฟทั่วไทยกับ golfdigg ได้แล้ว
บนเว็บไซต์ หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันฟรีได้ที่