News
“ปวิธ” ชิพอินเบอร์ดี้เพลย์ออฟที่ปราจีนบุรี คว้าแชมป์สิงห์-เอสเอที ไทยแลนด์พีจีเอ ที่ปราจีนบุรี
ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ ชิพอินเบอร์ดี้ระยะ 10 หลาที่หลุมสองของการดวลซัดเด้นเดธเพลย์ออฟเฉือนชนะ นรัส เหลืองเพชราภรณ์ คว้าแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการที่หกในอาชีพ ในการแข่งขันสิงห์-เอสเอที ปราจีนบุรี แชมเปียนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท ณ สนามกบินทร์บุรี สปอร์ตคลับ หรือ เคบีเอสซี ระยะ 7,639 หลา พาร์ 72 จ.ปราจีนบุรี
สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย จัดแข่งขัน “สิงห์-เอสเอที ปราจีนบุรี แชมเปียนชิพ 2020” ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท โดยจัดภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ โควิด-19 จากทางภาครัฐอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ จากการสนับสนุนร่วมกันของ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด และ การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. รายการนี้เป็นแมทช์ที่สามของฤดูกาล 2020 แข่งขันแบบสโตรกเพลย์ 54 หลุม ระหว่างวันที่ 7-9 ส.ค.2563 ณ สนามกบินทร์บุรี สปอร์ตคลับ หรือ เคบีเอสซี ระยะ 7,639 หลา พาร์ 72 จ.ปราจีนบุรี
เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมาเป็นรอบสุดท้ายของการแข่งขัน ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ ค่อนข้างมีปัญหากับทีช็อตแต่ยังจบสกอร์รอบสุดท้ายเข้ามา 2 อันเดอร์พาร์ 70 รวมสามวัน 13 อันเดอร์พาร์ 203 เท่ากับ นรัส เหลืองเพชราภรณ์ นักกอล์ฟวัย 27 ปีจากกรุงเทพฯ ที่มาแรงจากการเก็บ 3 เบอร์ดี้ในการเล่นหกหลุมสุดท้าย ก่อนขึ้นคลับเฮ้าส์ด้วยสกอร์ 3 อันเดอร์พาร์ 69 ต้องหาผู้ชนะด้วยการดวลซัดเดนเดธ เพลย์ออฟ
การเพลย์ออฟเล่นกันที่หลุม 18 พาร์ 4 ระยะ 436 หลา หลังจากทั้งคู่ยันกันด้วยพาร์ในเพลย์ออฟหนแรก แต่ดราม่ามาเกิดที่หลุมสองโดย นรัส ที่แอพโพรชไม่ออนกรีนชิพเบอร์ดี้ระยะประมาณ 15 หลา ปรากฏว่าสั้นไปไม่กี่นิ้วก่อนเข้ามาแท็ปอินพาร์ ทว่า ปวิธ โชว์ทีเด็ดชิพเบอร์ดี้จากขอบฟินซ์ระยะประมาณ 10 หลา ลูกสแลมดังค์ลงหลุมคว้าแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการที่หกในอาชีพไปครองสำเร็จพร้อมรับเงินรางวัลไปครอง 240,000 บาท
ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ นักกอล์ฟวัย 31 ปี ซึ่งกลับมาชนะไทยแลนด์พีจีเอทัวร์อีกครั้งนับตั้งแต่ชัยชนะที่เพชรบุรีเมื่อต้นปี 2016 เปิดเผยว่า “รู้สึกโล่งมากครับ เพราะช่วงเก้าหลุมสุดท้ายมันรับแรงกดดันมาตลอด เนื่องจากไดร์ฟไม่ดีด้วยต้องตามแก้อย่างเดียว ต้องเล่นตั้งรับอย่างเดียวเลย ต้องถือว่าโชคดีด้วยครับที่ได้รับชัยชนะในครั้งนี้”
แชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ 6 รายการยังกล่าวต่ออีกว่า “จริงๆผมคิดว่าวันนี้ผมยอมรับเลยว่าไม่สมควรชนะ เพราะไดร์ฟไม่อยู่เลย ก็ถือว่ามันเป็นเสน่ห์ของกอล์ฟครับ แต่โดยรวมสัปดาห์นี้ถือว่ากลับมาตีเกือบเหมือนเดิมหลังกลับจากโควิด เรื่องคอร์สแมเนจเมนท์ เรื่องสกอริงถือว่าดีขึ้น ตอนนี้ติดอยู่แค่ลูกเสิร์ฟ จริงๆเหมือนจะกลับมาดีแล้วแต่ก็มาหลุดวันสุดท้าย ก็ต้องไปแก้กันใหมครับ”
ส่วน นรัส เหลืองเพชราภรณ์ นักกอล์ฟวัย 27 ปีที่สตาร์ทรอบสุดท้ายตามหลังผู้นำเพียงสโตรกเดียว ก่อนเปิดฉากรอบสุดท้ายด้วยการเก็บพาร์ไปตลอดทางก่อนได้เบอร์ดี้แรกของวันที่หลุม 13 และปิดท้ายด้วยการเก็บสองเบอร์ดี้ในการเล่นสองหลุมสุดท้าย จบรอบสุดท้าย 3 อันเดอร์พาร์ 69 ก่อนไปแพ้เพลย์ออฟและรับเงินรางวัลปลอบใจไป 132,000 บาท
นรัส เหลืองเพชราภรณ์ ซึ่งการจบอันดับสองในรายการนี้นับเป็นผลงานที่ดีที่สุดในการเล่นอาชีพของเขา ซึ่งเจ้าตัวเปิดเผยว่า “ตื่นเต้นครับ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้เล่นเพลย์ออฟเพื่อชิงที่หนึ่ง โดยรวมก็ตีโอเคนะครับ เล่นได้ตามเกมเลย พยายามโฟกัสอยู่กับเกมของตัวเองอย่างที่บอกไว้ ช่วงแรกๆออกไปเวลาเผื่อมันไม่ค่อยเลี้ยวเข้าหาธง พอหลุมหลังๆเล็งเข้าหาธงก็เริ่มได้เบอร์ดี้ แต่ก็ไม่ได้ไปพยายามเร่งเกมตัวเอง ก็พอใจครับ”
ทางด้าน กัญจน์ เจริญกุล นักกอล์ฟวัย 28 ปีจากพังงาที่กวาดแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ 2 รายการแรกของฤดูกาล 2020 ไปครองนั้นมาเครื่องร้อนในรอบสุดท้าย กดเข้ามาถึง 7 เบอร์ดี้โดยไม่เสียโบกี้ ก่อนจบรอบ 7 อันเดอร์พาร์ 65 รวมสามวัน 12 อันเดอร์พาร์ 204 พลาดเพลย์ออฟไปเพียงสโตรกเดียว จบอันดับสามร่วมกับ วุฒิวิทย์ เจริญพรอนุกูล ที่ในรอบสุดท้ายหวดเข้ามา 5 อันเดอร์พาร์ 67 รับเงินรางวัลคนละ 76,050 บาท
เรียบเรียงโดย golfdigg
จองกรีนฟี ออกรอบกว่า 150 สนามกอล์ฟทั่วไทยกับ golfdigg ได้แล้ว
บนเว็บไซต์ หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันฟรีได้ที่