10 ที่เที่ยวชุ่มฉ่ำหัวใจในช่วงหน้าฝน ?⛳ นักกอล์ฟสายเที่ยวไม่ควรพลาดเด็ดขาด!

เชื่อว่าหลายๆ คน คงจะจัดอันดับให้ช่วงหน้าฝนอยู่ในท็อปแรงค์ต้นๆ ของฤดูที่ไม่ค่อยชอบ เพราะด้วยเหตุผลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าเปียก ตากผ้าไม่แห้ง การเดินทางไม่สะดวก และเป็นตัวขัดจังหวะสนุกในการท่องเที่ยวอีกด้วย แต่จะมีสักกี่คนกันที่รู้ว่าจริงๆ แล้ว หน้าฝนก็ซ่อนความสวยงามบนพื้นที่ต่างๆ ตามแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ และวัฒนธรรม ว่าแล้วก็อย่ารอช้ารีบมาดูก่อนดีกว่ามามีที่ไหนบ้าง แล้วจากนั้นค่อยเก็บของใส่เป้ออกลุย ไปชมกันเลย!

บ้านป่าบงเปียง จ.เชียงใหม่

สายลุย สาย Adventure มันต้องที่นี่เลย “บ้านบงเปียง” ดูๆ ไปแล้วสถานที่แห่งนี้ก็แทบจะเรียกได้ว่าเป็นซาปาเมืองไทยเลยก็ว่าได้ แถมไม่ต้องตีตั๋วเครื่องบินราคาแพงเลยด้วยซ้ำ สำหรับการเดินทางมาที่แห่งนี้ขอกบอกเลยว่า ทรหดสุดๆ ด้วยเส้นทางถนนค่อนข้างที่จะขรุขระ ขึ้นเขาลงห้วยหนักเอาการ ถ้าไม่ใช่นักลุยตัวจริงก็คงจะทนไม่ได้ แต่อย่างไรเราก็อยากให้ทุกคนได้มาเที่ยวที่นี่จริงๆ เพราะมาแล้วจะพูดเป็นคำเดียวกันแน่นอนว่า คุ้มค่ามาก! อ่อส่วนราคาที่พักนี่หลักร้อย แต่วิวหลักล้านเลยนาจา สิ่งที่ทุกคนควรรู้ก่อนที่จะแบกเป้ออกไปบ้านบงเปียง คือ ที่แห่งนี้ไม่มีไฟฟ้า และน้ำประปาเด้อ… เพราะฉะนั้นถึงบอกว่าต้องเป็นสายโหดตัวจริง สำหรับช่วงที่น่าไปเที่ยวที่สุดจะเป็นช่วงเดือนสิงหาคม กันยายน และตุลาคม เพราะมันจะอยู่ในช่วงที่ทุ่งข้างกำลังเขียวขจีอยู่พอดีเลย

อุ้มผาง จ.ตาก

อุ้มผ้าง ผ้าง ผ้าง ผ่าง… นับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท้องเที่ยวที่เหล่านักล่าความสุขต้องไปให้ได้ ซึ่งที่แห่งนี้จะสวยสดงดงามมากในช่งหน้าฝน ขอกบอกเลยว่าเมื่อเพื่อนๆ ได้ก้าวขามาที่แห่งนี้แล้ว เพื่อนๆ ได้สัมผัสแห่งความสุขอย่างครบเครื่องจริงๆ เพราะสิ่งที่จะได้เจอนั้นมีทั้ง ทะเลหมอก ทะเลดาว และน้ำตก สำหรับการเดินทางเพื่อนๆ จะได้พบกับทางโค้งจำนวน 1,2191 โค้ง เล่นเอาซะเวียนหัวกันเลยทีเดียวจ้า ใครที่ชอบเที่ยวน้ำตกเป็นพิเศษจะต้องบอกว่ามัน Amazing มาก เพราะอุ้มผางได้รวบรวมน้ำตกไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกพาเจริญ น้ำตกสายรุ้ง น้ำตกทีลอจ่อ (น้ำตกสายฝน) น้ำตกทีลอซู ไม่รู้ว่าจะจัดอันดับความสวยงามอย่างไรดีเลย เอาง่ายๆ ละกันว่าไม่ควรพลาดสักจุดเลย ยิ่งน้ำตกทีลอซูแล้วล่ะก็บอกเลยว่าเสียดายแย่ เพราะน้ำตกทีลอซูเขาได้จัดอันดับให้เป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในประเทศไทย ส่วนใครอยากรู้ว่าทะเลดาวหน้าตาเป็นเช่นไร ก็ต้องไปที่ดอยหัวหมดสัก 3 ทุ่ม บอกคำเดียวว่า “เดี๋ยวรู้แลย…” แต่มันก็ไม่ได้หมดแค่นั้นหรอก หากเพื่อนๆ อยู่กันยันสว่างก็จะได้พบกับทะเลหมอกหนามารับอรุณ ส่วนการเดินทางจะใช้เวลาอยู่ที่ 9-10 ชั่วโมง (จากกรุงเทพถึงแม่สอด) และต้องต่อรถไปอีก 3-4 ชั่วโมงถึงจะไปถึง แม้ว่าจะเป็นการเดินทางที่ดูยาวไกลก็ตามทีเถอะ ยังไงมันก็โคตรจะคุ้มเลย

เขาใหญ่ จ.นครศรีราชสีมา

ใครไม่ใหญ่ แต่เขาใหญ่จ้า หลายคนคงมองว่าเที่ยวเขาใหญ่หรอ มันธรรมดาไปหรือเปล่า ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าสถานที่เที่ยวแห่งนี้เขาได้ซ่อนความส่วนงามเอาไว้อยู่ จะได้ดูก็ช่วงหน้าฝนเท่านั้น ซึ่งข้อดีของการมาที่นี่คือ รวดเร็ว ทันใจใน 3 ชั่วโมง ยิ่งถ้าเป็นกมนุษย์เงินเดือนแล้วล่ะก็ยิ่งควรมาพักชาร์จแบตตัวเองเลยด้วย รับรองว่าใครมาก็ต้องเต็มอิ่มกับอุทยานป่าไม้ น้ำตก แนะนำว่าถ้าจะมาให้จูงมือคนรักมาด้วยนะ ช่วงหน้าฝนนี้บนเขาใหญ่นี่มันโรแมนติกสุดๆ เลยแหละ

เชียงคาน จ.เลย

เที่ยวในสไตล์สายเขียวมามากแล้ว เปลี่ยนกลับมาเที่ยวในเมืองแห่งวัฒธรรมบ้างกันดีกว่า นี่ “เชียงคาน” คงเคยได้ยินกันบ้างแล้วใช่ไหม แต่เคยไปกันหรือยังล่ะ นอกเหลือจากที่เรารู้ๆ กันดีว่าเชียงคานเป็นสถานที่เที่ยวเชิงวัฒนธรรมแล้ว เพื่อนๆ ก็จะได้เห็นแม่น้ำแม่โขงตัดแบ่งพื้นที่เขตของประเทศไทยกับลาวอย่างชัดเจน และทีเด็ดในช่วงหน้าฝนก็คงหนีไม่พ้นหมอกขาวหนาตาสวยงาม สำหรับสายบุญอาจจะชอบที่นี่มากๆ เพราะที่นี่มีวัดอยู่เยอะ อิ่มบุญแน่นอน อีกทั้่งอาหารก็อร่อยอิ่มท้องไปอีก ช้าอยู่ทำไม แบกเป้ไปเชียงคานกันเลย…

สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

อยากชมหมอก แต่ต้องออกไปไกล ถ้าไม่อยากเดินทางไกลๆ ขอแนะว่าให้ไป “สังขละบุรี” สถานที่ที่รวบรวมอารยธรรมควบคู่ไปกับวัฒนธรรมที่หลากหลาย พร้อมสถาปัตยกรรมที่งดงามน่าเหลือเชื่อ อีกหนึ่งกิจกรรมที่เพื่อนๆ พลาดไม่ได้เลย คือ การตักบาตรที่ฝั่งมอญ ถ้าอยากรู้ว่าที่นี่มันดีอย่างไร ไม่ต้องสงสย หยิบกุญแจแล้วรีบเหยียบคันเร่งไปเลย

สะพานบุญโชกู้โส่ จ.แม่ฮ่องสอน

พูดถึงจังหวัดนี้ หลายคนนึกถึงปาย แต่มีใครไหมที่จะรู้จัก “สะพานบุญโชกู้สุ่ย” ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ก่อนอื่นขออธิบายคำว่าสะพานบุญโชกู้สุ่ยสักหน่อย โดยชื่อของสะพานมีความหมายถึง สะพานบุญที่ให้ชาวบ้านได้เดินทางไปถวายบุญและสังขทาน เมื่อมาที่สะพานแห่งนี้ทุกมุม 360 องศา จะถูกโอบล้อมไปด้วยป่าไม้สีเขียว และภูเขาสูงใหญ่ พร้อมหมอกจางๆ ปลกคลุม คุณสามารถเที่ยวชมกับวัฒนธรรม วิถีชีวิตของไทยใหญ่ หรือไทยไต ถ้ามาที่นี่แล้วก็อย่า พลาดที่จะเที่ยวดอยเมี่ยง ที่มีชื่อเสียงว่าสวยที่สุดในปายให้ได้ด้วยนะ ไม่งั้นก็รู้สึกเสียเที่ยวแย่เลย

ภูห้อยอีสัน จ.หนองคาย

ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คระดับท็อปของจังหวัดหนองคาย ต้อง “ภูห้อยอีสัน” เท่านั้น ที่เที่ยวแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งอันซีนด์ไทยแลนด์ที่เพื่อนๆ ควรต้องไปสักครั้งในชีวิต เมื่อกวาดสายตาไปรอบๆ เพื่อนๆ จะรู้สึกสดชื่นไปสีเขียวสดใสของต้นไม้ใบหญ้า พร้อมหมอกขาว ยิ่งถ้าเพื่อนๆ เป็นนักท่องเที่ยวสายบันทึกภาพแล้วจะยิ่งรู้สึกรักเลย ไงก็ขอแนะนำว่าให้มาดูและสัมผัสด้วยตาตัวเองกันเหอะ แล้วเพื่อนๆ จะเลิฟกับภูห้อยอีสันอย่างแน่นอน

ทุ่งดอกหงอนนาค จ.ปราจีนบุรี

สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เผยความสวยงามให้เราดูได้ตลอดเวลา ซึ่งต้องมาในช่วงหน้าฝน ลมหนาว เท่านั้น! โดยทุ่งดอกหงอนนาคมีความกว้างถึง 10 ไร่ ชื่อสถานที่ก็บอกชัดอยู่แล้วว่าในที่แห่งนี้จะมีดอกหงอนนาคสีม่วงล้อมรอบเป็นจำนวนมาก ใครชอบถ่ายภาพคู่กับวิวสวยๆ คงต้องถูกใจอย่างแน่นอน ยิ่งถ้ามาเป็นคู่แล้วล่ะก็ยิ่งสวีต โลแมนติกเข้าไปใหญ่เชียวแหละ นับได้ว่าเป็นท็อปแห่งความโรแมนติกที่สุดของสถานที่ท่องทั้งหมดที่เราได้แนะนำเพื่อนๆ ไป

เขาหงอนนาค จ.กระบี่

สุดฮิตในจังหวัดกระบี่ ซึ่งเขาหงอนนาคจะเป็นสถานที่ที่อยุ่ในอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์นาธา แห่งหมู่เกาะพีพี โดยจะมีระยะห่างจากตัวเมืองกระบี่ 30 กิโลเมตร ถือว่าเป็นภูเขาที่สวยงาม และน่าหวาดเสียวเลยทีเดียว จากข้อมูลที่ได้มาวัดระดับความสูงจากเขาลงไปพื้นดินถึง 500 เมตร ใครที่เป็นสายลุย สายธรรมชาติ คงต้องบอกว่ามาเหอะ จะได้ไม่เสียดาย ขอแนะนำเพิ่มอีกนิดถ้าหากใครชอบลุยๆ อย่างนี้แล้วควรเตรียมเสื้อผ้าที่มีความคล่องตัว และอาหารสำหรับทานระหว่างทางไว้ด้วย เพราะการเดินขึ้นเขาหงอนนาคนั้น จะต้องใช้เวลาพอสมควรด้วยนะ

วนอุทยานภูลังกา จ.พะเยา

เพื่อนๆ สามารถไปท่องเที่ยวในราคาสบายกระเป๋า แถมได้วิวหลักล้าน โดยที่แห่งนี้ขอบอกเลยว่า นักท่องเที่ยวสไตล์ลุยๆ Backpacker ควรต้องมามากๆ เพราะมันคือที่ที่ควรเก็บบันทึกภาพความทรงจำ และจดบันทึกไว้ในสมุด เมื่อมาถึงสถานที่แห่งนี้เพื่อนๆ จะได้พบกับธรรมชาติสีเขียวที่มีความกว้างถึง 7,800 ไร่ ล้อมรอบ อีกทั้งยังมีภูเขาสูงสลับไปมา ส่วนในการเดินทางนี้ ให้เพื่อนๆ เดินทางมาที่อำเภอเชียงคำ บ้านทุ่มหล่มใหม่ก็จะได้พบกับที่ถ่ายภาพคูลๆ แล้ว โดยที่แห่งนี้มีทั้ง ยอดเขาภูนม, ยอดเขาภูลังกา, ลานหินล้านปี และจุดไฮไลท์เด็ดสำหรับการชมหมอกพร้อมกับจิบกาแฟแบบ Slow Life ก็ต้องไปที่ร้าน Magic Mountain เลย ถ้าหากไปในช่วงจังหวะดีก็จะไม่วุ่นวาย แนะนำให้ศึกษาเวลาดีๆ เพื่อความสงบ และสบายในการจิบกาแฟชมหมอก

---

เรียบเรียงโดย golfdigg

จองกรีนฟี ออกรอบกว่า 150 สนามกอล์ฟทั่วไทยกับ golfdigg ได้แล้ว
บนเว็บไซต์ หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันฟรีได้ที่