เรื่องนี้มีที่มา เปิดเบื้องหลังโลโก้สนามสุดโหด Bethpage State Park

เมื่อเอ่ยถึงสนามกอล์ฟสุดหฤโหดกับป้ายเตือนที่ท้าทายผู้เล่นอยู่ข้างสนาม สองสิ่งนี้อาจทำให้ชื่อของสนาม Bethpage State Park Black course ผุดขึ้นมาในหัวได้ไม่ยาก

‘Bethpage State Park Black course’ เพิ่งถูกใช้เป็นลานประลองวงสวิงระดับเมเจอร์รายการ PGA Championship ครั้งที่ 101 เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา และในอนาคตสนามแห่งนี้ยังเตรียมเป็นสนามสำคัญในศึก Ryder Cup 2024 นั่นก็คืออีก 5 ปีข้างหน้าอีกด้วย

ไม่เพียงแต่ความยากของสนามที่ถูกกล่าวขานกันเรื่อยมา แต่เอกลักษณ์อีกมุมนึงของสนาม อย่างโลโก้ Caddy Boy ทำให้แฟนกอล์ฟหลายคนจดจำสนามแห่งนี้ได้เช่นกัน เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหน เจ้าโลโก้นี้ก็จะปรากฏไปทั่ว ทั้งบนชุดนักกอล์ฟ หมวก รวมถึงอุปกรณ์อื่น ๆ

โดยเว็บไซต์ golf.com ได้เผยถึงความหมายของสีแต่ละสีบนชุด Caddy Boy ว่า เป็นสีของสนามทั้ง 5 ที่ Bethpage Statepark ประกอบด้วย ดำ (Black Course), น้ำเงิน (Blue Course), เขียว (Green Course), แดง (Red Course) และเหลือง (Yellow Course) อันแสดงถึงจิตวิญญาณในกอล์ฟ และยึดเหนี่ยวเรื่องราวในอดีตของสนามที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยของอเมริกาพอดี

ทั้งนี้ Caddy Boy มีที่มาที่ไปจาก Robert Moses นักวางผังเมืองอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งในตอนนั้นเขาคือผู้บุกเบิกให้พื้นที่แห่งนี้เปิดเป็นที่สาธารณะ ได้เสนอให้มีรูปแคดดี้เด็กชายนี้ติดที่บานเกร็ดและประตูทุกบานบนคลับเฮ้าส์แห่งใหม่ในปี 1930 ภายหลังภาพดังกล่าวกลายเป็นแรงบันดาลใจเกิดเป็นสัญลักษณ์ประจำสนาม และปรากฏอยู่บนป้ายไม้แท่นทีข้างสนามทุกแห่ง

ขณะนั้น Albert Warren Tillinghast สถาปนิกชื่อดัง ผู้ออกแบบสนาม Bethpage ก็ได้จับเอาสัญลักษณ์ Caddy Boy นี้ใส่ไปในการออกแบบสนามพร้อมตีความถึง ความเรียบง่ายและตรงไปตรงมา เฉกเช่นสนาม black course ที่สอดคล้องกับปรัชญาทางสถาปัตยกรรมของเขาที่ว่า ‘การออกแบบสนามที่ดีจะส่งผลต่อทุกสิ่ง’

อ้างอิง
– https://www.golf.com/news/2019/05/19/bethpage-golf-courses-everything-need-know/
– https://www.golf.com/news/2019/05/07/pga-championship-2019-bethpage-caddy-boy-logo/

เรียบเรียงโดย golfdigg

จองกรีนฟี ออกรอบกว่า 150 สนามกอล์ฟทั่วไทยกับ golfdigg ได้แล้ว
บนเว็บไซต์ หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันฟรีได้ที่