2 สิ่งต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อถุงกอล์ฟใบแรก ให้คุ้มค่าและตอบโจทย์

2 สิ่งต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อถุงกอล์ฟใบแรก เพื่อให้คุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งาน

สำหรับนักกอล์ฟมือใหม่ “ถุงกอล์ฟ” คือหนึ่งในอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุด เพราะนอกจากจะใช้เก็บและปกป้องไม้กอล์ฟแล้ว ยังสะท้อนสไตล์และบุคลิกของผู้เล่นอีกด้วย การเลือกถุงกอล์ฟใบแรกจึงไม่ควรตัดสินใจเพียงเพราะรูปลักษณ์ แบรนด์กระเป๋ากอล์ฟ หรือราคา แต่ควรพิจารณาหลายปัจจัยเพื่อให้ได้ถุงที่เหมาะกับการใช้งานและคุ้มค่ากับการลงทุนในระยะยาววันนี้เราจะพาไปดู 2 สิ่งที่สำคัญสำหรับการตัดสินใจซื้อถุงกอล์ฟและจะทำให้คุณได้คำตอบว่าซื้อถุงกอล์ฟยี่ห้อไหนดี

ประเภทของถุงกอล์ฟที่ควรรู้

ก่อนจะเริ่มเลือกซื้อถุงกอล์ฟ ควรเข้าใจก่อนว่าถุงแต่ละประเภทถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นในสนาม การซ้อม หรือการเดินทาง ถุงบางประเภทเหมาะกับนักกอล์ฟที่ต้องเดินสนามด้วยตนเอง ในขณะที่บางแบบถูกออกแบบให้ใช้งานกับรถกอล์ฟโดยเฉพาะ 

การเข้าใจประเภทของถุงกอล์ฟจะช่วยให้คุณเลือกได้ตรงกับพฤติกรรมการเล่นและความสะดวกในการพกพามากที่สุด ควรทำความเข้าใจประเภทของถุงกอล์ฟหลัก ๆ ซึ่งมีอยู่ 3 แบบ คือ

1. Cart Bag (ถุงกอล์ฟสำหรับรถกอล์ฟ)

เหมาะสำหรับผู้ที่เล่นกอล์ฟเป็นประจำและใช้รถกอล์ฟเป็นหลัก มีช่องใส่อุปกรณ์มากและพื้นที่จัดเก็บกว้าง แต่มีน้ำหนักมากและไม่เหมาะกับการสะพายเดิน

2. Stand Bag (ถุงกอล์ฟแบบขาตั้ง)

เป็นถุงยอดนิยมสำหรับนักกอล์ฟทั่วไป มีขาตั้งช่วยให้หยิบใช้สะดวก น้ำหนักเบา พกพาง่าย เหมาะกับการฝึกซ้อมและสนามพาร์ 3

3. Carry Bag (ถุงกอล์ฟแบบสะพาย)

ขนาดเล็ก น้ำหนักเบามาก เหมาะสำหรับผู้ที่เดินเล่นกอล์ฟด้วยตนเองหรือซ้อมระยะสั้น แต่เก็บไม้ได้น้อย

นอกจากนี้ยีงมี Travel Cover (ถุงกอล์ฟเดินทาง) สำหรับนักกอล์ฟที่ต้องเดินทางไปเล่นต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ใช้คลุมถุงกอล์ฟหลักเพื่อป้องกันแรงกระแทกระหว่างการขนส่ง

สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนซื้อถุงกอล์ฟ

1. น้ำหนักและวัสดุ
   หากคุณเดินสนามบ่อย ควรเลือกวัสดุน้ำหนักเบา เช่น Nylon หรือ Polyester แต่ถ้าเน้นความแข็งแรงและกันน้ำดี ให้เลือกวัสดุผ้า Cordura หรือหนังสังเคราะห์
2. จำนวนช่องและการจัดเก็บ
   ตรวจสอบจำนวนช่องสำหรับไม้กอล์ฟ โดยทั่วไปถุงมาตรฐานจะมี 4–6 ช่อง เพื่อป้องกันการกระแทกของไม้แต่ละอัน รวมถึงช่องเก็บลูกกอล์ฟ ถุงมือ หรือของใช้ส่วนตัว
3. ความสะดวกในการพกพา
   ถ้ามักเดินสนามด้วยตัวเอง ให้เลือกแบบที่มีสายสะพายคู่และแผ่นรองหลัง ส่วนผู้ที่ใช้รถกอล์ฟบ่อย ควรเลือกแบบที่มีฐานมั่นคงและขนาดพอดีกับรถกอล์ฟ
4. ดีไซน์และแบรนด์
   ดีไซน์เป็นเรื่องของรสนิยมส่วนตัว แต่ควรเลือกแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเรื่องคุณภาพ เช่น Titleist, Callaway, TaylorMade, หรือ Ping เพื่อความมั่นใจในความทนทานและการรับประกัน
5. งบประมาณและการใช้งานในระยะยาว
   ถุงกอล์ฟมีราคาตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักหมื่นบาท หากเพิ่งเริ่มเล่น แนะนำเริ่มจากรุ่นมาตรฐานที่มีฟังก์ชันครบ และค่อยอัปเกรดเมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น

การเลือกถุงกอล์ฟที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณเล่นกอล์ฟได้อย่างสบายใจ แต่ยังสะท้อนความเป็นมืออาชีพในการดูแลอุปกรณ์ของตนเองด้วย และสำหรับนักกอล์ฟที่ต้องเดินทางบ่อย AIRPORTELs พร้อมให้บริการ ขนส่งกระเป๋ากอล์ฟถึงสนามหรือสนามบินโดยตรง ช่วยลดภาระในการพกพา ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักหรือความเสียหายระหว่างทางเพียงจองผ่านเว็บไซต์ Golfdigg คุณก็สามารถส่งถุงกอล์ฟจาก บ้าน – โรงแรม – สนามบิน – สนามกอล์ฟ ได้อย่างปลอดภัยและตรงเวลา มอบประสบการณ์ “Hands-free Golf Travel” ที่ตอบโจทย์นักกอล์ฟยุคใหม่อย่างแท้จริง

เรียบเรียงโดย golfdigg

จองกรีนฟี ออกรอบกว่า 150 สนามกอล์ฟทั่วไทยกับ golfdigg ได้แล้ว
บนเว็บไซต์ หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันฟรีได้ที่