“ตั้งแต่วันที่ฉันตัดสินใจเริ่มเล่นกอล์ฟ ทุกคืนฉันก็เริ่มสร้างฝันขึ้นมา
ฝันไว้ว่าสักวัน จะต้องเป็นมือหนึ่งของโลกให้ได้”

พัค เซ-รี อดีตนักกอล์ฟสาวผู้พลิกโฉมอุตสาหกรรมกอล์ฟเกาหลีเพียงชั่วข้ามคืน
กล่าวผ่านรายการ CNN Living Golf หนึ่งเดือนหลังเธอเกษียณเมื่อปี 2016

จากบทความก่อนหน้านี้ golfdiggTODAY ได้เรียบเรียงข้อมูลเพื่อหาว่า ทำไมกอล์ฟเกาหลีถึงมาแรงแซงทางโค้ง ซึ่งอิทธิพลหลักอันดับแรกคือการพลิกฟื้นเศรษฐกิจเกาหลีใต้ของ พัค เซ-รี จากการเป็นนักกอล์ฟหญิงเอเชียคนแรกที่คว้าแชมป์เมเจอร์รายการ U.S. Women’s Open ในปี 1998 ทำให้เธอกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนในชาตินับแต่นั้นมา

ฮีโร่

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1998 หรือปี 2541 เกาหลีใต้กำลังเป็นโรค ‘กิมจิ’ (เศรษฐกิจตกต่ำหลังฟองสบู่แตก เช่นเดียวกับวิกฤตต้มยำกุ้งบ้านเรา) ทำให้รัฐบาลเป็นหนี้ IMF กระทั่งพัค เซ-รี คว้าแชมป์เมเจอร์ U.S. Women’s Open ครั้งนั้น เธอได้ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติหลายคนให้เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมกอล์ฟมากขึ้น

เมื่อเรื่องราวของก้านเหล็กสาวได้ถูกเผยแพร่ เธอจึงกลายเป็นฮีโร่ผู้เปิดประตูบานใหม่ให้วงการกอล์ฟ

ในยุคแรกแอลพีจีเอจะประกอบด้วยผู้เล่นอเมริกันเป็นส่วนใหญ่ ก่อนที่ชาติอื่นจะเข้ามาเป็นตัวเต็งทั้ง แอนนิกา โซเรนสตัม (สวีเดน), ลอเรนา โอชัว (เม็กซิโก)

ขณะที่ 3 ปีหลัง พัค เซ-รี เฉิดฉายบน LPGA ด้วยการคว้าแชมป์ 8 รายการ 2 รายการเป็นรายการเมเจอร์ สัดส่วนผู้เล่นในทัวร์นี้ก็เปลี่ยนไป นักกอล์ฟเกาหลีใต้มีจำนวนเพิ่มขึ้น พร้อมกับกวาดแชมป์ไปหลายรายการ และยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความสามารถ ผู้เล่นในชาติต่างสลับสับเปลี่ยนกันขึ้นเป็นมือหนึ่งและกวาดรางวัลแอลพีจีเอ อาทิ พัค อินบี, ชเว นายอน, พัค ซองฮยอน ฯลฯ นี่ยังไม่นับรวมลูกครึ่งเกาหลีและนักกอล์ฟเกาหลีที่โอนสัญชาติไปต่างประเทศอย่าง ลิเดีย โค

จนต้องยอมรับว่าตั้งแต่ปี 2011 นักกอล์ฟเกาหลีใต้โดยเฉพาะในแอลพีจีเอทัวร์ มาแรงจริง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘แรงบันดาลใจของเขาคือ พัค เซ-รี’

ช้าเร็วไม่สำคัญ

หลายคนเชื่อว่ากอล์ฟเป็นกีฬาที่ต้องปลูกฝังตั้งแต่เล็ก ๆ นักกอล์ฟระดับโลกอย่างไทเกอร์ วูดส์ ยังเริ่มจับไม้ตั้งแต่ 2 ขวบด้วยซ้ำ แต่สำหรับ พัค เซ-รี เธอห่างไกลช่วงเวลานั้นไปมาก

เธอเริ่มเล่นกอล์ฟตอนอายุ 14 ปี จากคำแนะนำของพ่อ แถมยังเป็นการเริ่มต้นที่ไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่และไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าจะทำได้

“ตอนนั้นฉันชอบที่จะออกไปเล่นกับเพื่อนที่สนามวิ่งมากกว่า มันทำให้ฉันรู้สึกถึงความเป็นทีมอยู่เสมอ”

ขณะที่กอล์ฟเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับตัวเองล้วน ๆ และการฝึกซ้อมข้าง ๆ บรรดาเพื่อนของพ่อที่มีแต่คนสูงวัย มันค่อยข้างจะน่าเบื่ออยู่หน่อย ๆ แต่แล้วจุดเปลี่ยนก็เริ่มขึ้นเมื่อเธอมีโอกาสไปร่วม ‘จูเนียร์ทัวร์นาเม้นท์’ ทันทีที่กลับบ้าน เธอจึงบอกพ่อว่า เธอเลือกแล้วว่าจะเล่นกอล์ฟ แล้วฝันของเธอก็เริ่มต้นขึ้น คือการเป็นนักกอล์ฟมือหนึ่งของโลก

“พอฉันมีความฝัน ฉันก็แค่ต้องสนุกไปกับมัน ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งเข้าไว้และตั้งใจกับมันให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้ทุกเวลาทุกนาทีนั้นสูญเปล่า” เธอกล่าว

สื่อต่าง ๆ เคยเผยว่า พ่อของเธอใช้วิธีการฝึกซ้อมร่างกายด้วยการให้เธอวิ่งขึ้นลงบันไดในอพาร์ทเม้นท์ 15 รอบ และฝึกฝนจิตใจด้วยการพาไปนอนที่สุสาน หลายคนอาจไม่เห็นด้วยกับวิธีนี้ แต่สำหรับเธอ

ถ้าไม่มีครอบครัวคอยสนับสนุน ก็คงไม่มีพัค เซ-รี ที่ยืนอยู่ตรงนี้

เป้าหมายสำหรับฉันเป็นเรื่องสำคัญ

เธอเริ่มฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลากว่า 1 ปี แล้วก็เริ่มคว้าแชมป์ในรายการเล็ก ๆ พร้อมเทิร์นโปรในปี 1996

แล้วจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญก็ได้เริ่มต้นขึ้น ในปี 1997 เธอต้องตัดสินใจไปอเมริกา เพื่อคัดตัวเข้าไปเล่นในแอลพีจีเอทัวร์ปี 1998 ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วแบบไม่ทันตั้งตัว
สำหรับเธอ…นี่คือโอกาสทองที่จะทำให้ไปถึงเป้าหมาย แต่แล้วทุกอย่างก็ไม่ได้ง่ายแบบที่คิดไว้

การเดินทางครั้งนี้คือช่วงเวลาที่แสนลำบากและโหดร้ายกับเธอในวัย 19 ปีอย่างมาก ที่ต้องจากบ้านเกิดไปไกลเพียงลำพังเพื่อตามหาฝันที่อยากเอาชนะนักกอล์ฟที่เก่งที่สุดในโลก

ช่วงหนึ่งในรายการ The Law of Jungle ที่เธอได้รับเชิญไปร่วมผจญภัยได้อธิบายช่วงชีวิตในอเมริกาว่า

“ในตอนแรกฉันไม่รู้ภาษาอังกฤษ พอถึงสนามบิน ตอนจะหาเกท ฉันต้องไล่ดูตัวอักษรภาษาอังกฤษทุกตัว เพื่อหาว่ามันคือตัวอะไร” ซึ่งแค่นั้นเธอก็ใช้เวลาไปแล้ว 20 นาที

สอดคล้องกับในรายการ CNN Living Golf ที่เธอเล่าว่า
“ฉันต้องแอบไปเปลี่ยนรองเท้าที่ลานจอดรถ เพื่อหลีกเลี่ยงการสนทนากับคนอื่น”

ทำให้ 2 – 3 เดือนแรก เธอจึงไม่เหยียบเข้าไปที่ห้องล็อกเกอร์เลย แต่นั่นก็ไม่ใช่ว่าเธอไม่ได้พยายามหาเพื่อน ทว่าแค่ไม่รู้วิธีผูกมิตรเท่านั้นเอง

แต่นั่นแหละ “ฉันต้องอยู่ให้ได้ด้วยตัวเองในต่างประเทศ ที่ทั้งต่างภาษา ต่างวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย” ก้านเหล็กสาวเล่า

อีกความกดดันที่เธอต้องแบกรับแม้จะชนะรายการเมเจอร์ที่นั่นมาแล้วถึง 2 รายการ (McDonald’s LPGA Championship , U.S. Women’s Open) นั่นคือ สปอนเซอร์หลักอย่างซัมซุง จนครั้งหนึ่งพ่อเธอถึงกับเอ่ยปากให้กลับมาเล่นทัวร์ในบ้านแทน แต่เพราะเป้าหมายมีความสำคัญกับเธอมาก เธอขอเวลาปรับตัว 3 ปีเท่านั้น แล้วไม่นานแชมป์รายการต่าง ๆ ก็ตกเป็นของเธอในที่สุด

‘‘

หัวใจของการเล่นในอเมริกาคือการใช้ชีวิตอย่างคนเร่ร่อน การรับมือกับความเหงาเป็นสิ่งที่ยากที่สุด

ในช่วงเวลายากลำบาก ฉันมีเพียงน้ำตาเป็นเพื่อนและการฝึกซ้อมเป็นสิ่งเดียวที่เยียวยาฉันได้

’’

พัค เซ-รี
อดีตตำนานนักกอล์ฟสาวชาวเกาหลีใต้
เล่าถึงความลำบากในการเป็นนักกอล์ฟอาชีพที่สหรัฐอเมริกา ผ่านรายการ The law of jungle

เป้าหมายใหม่

หลังตัดสินใจแขวนไม้กลางรายการ KEB Hana Bank Championship ในปี 2016 ด้วยวัย 39 ปี พัค เซ-รี ยังคงปรากฏตัวในวงการกอล์ฟอยู่เนือง ๆ โดยเป้าหมายใหม่ของเธอหลังเกษียณ คือการอุทิศตัวเพื่อพัฒนาวงการกอล์ฟ และล่าสุดมีข่าวว่าเธอกำลังเตรียมตัวเป็นเป็นโค้ชกอล์ฟทีมชาติในการแข่งขันโอลิมปิก 2020 นี้ด้วย

นอกจากนี้เธอยังเปิดสถาบันกีฬานานาชาติใกล้กรุงโซล ที่เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเน้นย้ำนักกอล์ฟรุ่นใหม่ ๆ ที่อยากเจริญรอยตามเธอ ด้วยการสอนให้รับมือกับความกดดันต่าง ๆ และการมีน้ำใจนักกีฬา พร้อมว่า

“มันเป็นเรื่องปกติของนักกอล์ฟที่แชมป์สัปดาห์นี้ อาจไม่ผ่านตัดตัวในสัปดาห์ต่อไป” นั่นแหละกีฬากอล์ฟ

Players, friends and fans pay tribute to Se Ri Pak as she plays her last round of her LPGA career at #KEBHanaBank. #ThanksSeri #HatTip pic.twitter.com/Kgj6s1mF9R

— LPGA (@LPGA) October 13, 2016

บางวันเราอาจจะตีไม่ดี เล่นไม่ได้ นั่นไม่เป็นไรเลยจริง ๆ ตราบใดที่คุณอยากเป็นผู้เล่นที่ติดอันดับ คุณต้องเรียนรู้ที่จะผิดพลาดให้มากที่สุด อย่ากังวลเพราะหนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล

อ้างอิงที่มา:

• LPGA , PGA (ภาพ)
• CNN Living Gol
• รู้จัก พัค เซ-รี มากขึ้นผ่านรายการสุดโปรด The Law of Jungle
• Pak Se-ri, Choi Kyung-ju Tapped Again as Olympic Golf Coaches

---

เรียบเรียงโดย golfdigg

จองกรีนฟี ออกรอบกว่า 150 สนามกอล์ฟทั่วไทยกับ golfdigg ได้แล้ว
บนเว็บไซต์ หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันฟรีได้ที่