Article
เปิด 6 สนามระยอง ส่องเมนูยอดฮิตและหลุมซิกเนอเจอร์ที่ห้ามพลาด!
จะมีสนามไหนบ้าง มาดูกัน…
ช่วงนี้กีฬากอล์ฟเริ่มกลับมาคึกคักกันอีกครั้ง ถ้าใครเริ่มคันไม้คันมืออยากออกรอบอยู่ วันนี้ golfdiggTODAY ขออาสาแนะนำสนามกอล์ฟที่ระยอง กับเมนูยอดฮิต และหลุมซิกเนเจอร์ของ 6 สนามที่ห้ามพลาดกัน!!
1. Rayong Green Valley Country Club
ออกแบบโดย: Mr.Peter Thomson และ Michael Wolveridge
สร้างใกล้กับเนินเขา ทำให้เราจะได้เจอกับชั้นหิน ก้อนหินขนาดใหญ่, ต้นกระบองเพชร, และสัตว์น้อยใหญ่ที่อาศัยอยู่ในแถบนั้นได้ ตำแหน่งบังเกอร์ได้ถูกกำหนดไว้อย่างดี เพื่อเชื้อเชิญให้เหล่านักกอล์ฟมากประสบการณ์ได้ลองไดร์ฟข้ามบังเกอร์ ส่วนนักกอล์ฟที่อาจจะตีได้ไม่ไกลนักก็ยังมีพื้นที่มากมายให้ทำเลย์อัพช็อตได้อย่างสบายๆ ในส่วนของกรีนนั้นมีทั้งกรีนที่มีขนาดใหญ่และเล็ก แต่ทุกหลุมล้วนมีลักษณะที่เป็นคลื่น เป็นลอนทั้งสิ้น แต่ถึงอย่างนั้นที่กรีนวัลเลย์ก็ยังถูกยกให้เป็นสนามกอล์ฟในแถบพัทยาที่เหมาะต่อการเดินมากที่สุดเนื่องจากธรรมชาติอันร่มรื่นและเงียบสงบนั่นเอง
Signature Hole: หลุม 9 พาร์ 4
เมนูแนะนำ: ราดหน้าฮ่องเต้
ที่ตั้ง: https://goo.gl/maps/TuNGCPpinTKApkbW8
2. St.Andrews 2000
ออกแบบโดย: Mr. Desmond Muirhead
สนามแห่งนี้สร้างขึ้นตามแบบสนามลิงค์คอร์สในแถบประเทศสก็อตแลนด์ มีความยากเล็กน้อยจึงเหมาะสมกับนักกอล์ฟที่มีระดับแฮนดิแคปที่ 18 หรือต่ำกว่า พื้นที่บริเวณแท่นทีและกรีนนั้นจะถูกยกสูงขึ้น พื้นที่ที่เป็นจุดตกแคบ ระดับความสูงของแฟรเวย์มีหลายระดับ มีกรีนพัตต์ขนาดหญ่แต่ก็มีเรื่องให้น่าแปลกใจด้วยสำหรับ 9 หลุมสุดท้ายจะมีระดับพื้นที่ต่างกันอย่างชัดเจนและมาพร้อมกับวิวทิวเขาโดยรอบ
Signature Hole: หลุม 13 พาร์ 6
เมนูแนะนำ: แฮกึ้นทอด
ที่ตั้ง: https://goo.gl/maps/TuNGCPpinTKApkbW8
3. Silky Oak Country Club
ออกแบบโดย: ทีมงาน St.Andrews 2000 และ Rayong Green Valley
ซิลค์กี้ โอ๊ค แปลเป็นไทยได้ว่าต้นส้นอินเดีย ซึ่งทางสนามได้มีการปลูกต้นไม้ชนิดนี้อยู่เต็มพื้นที่ของสนามโดยด้านหลังของใบต้นสนอินเดียนั้นจะมีสีเทา-เงินซึ่งจะดูสวยงามมากเมื่อโดนลมพัด
สนามแห่งนี้จะมีแฟร์เวย์ที่กว้างและกรีนใหญ่ เหมาะสำหรับนักกอล์ฟที่มีฝีมืออยุ่ในระดับกลางจนถึงแฮนดิแคปสูง และสำหรับคนที่อยากตีลงแฟร์เวย์ได้แบบสบายๆ และด้วยการออกแบบอย่างสวยงามและวิวของสนามที่แสนตระการตา ทำให้ที่นี่เหมาะแก่การผ่อนคลายเป็นอย่างยิ่ง
Signature Hole: หลุม 14 พาร์ 3
เมนูแนะนำ: ไก่แช่เหล้า
ที่ตั้ง: https://goo.gl/maps/TuNGCPpinTKApkbW8
4. Eastern Star Country Club & Resort
ออกแบบโดย: Robert Trent Jones, Jr.
เป็นสนามสมัยใหม่ที่เน้นบ่อน้ำและบังเกอร์ทรายมากกว่าต้นไม้ โดยรวมสนามนี้จึงมี 65 บังเกอร์ 9 บ่อน้ำใหญ่คู่แฟรเวย์ มีต้นมะพร้าวมากกว่า 2,200 ต้น
Signature Hole: หลุม 13 พาร์ 3
เมนูแนะนำ: ผัดไทย
ที่ตั้ง: https://goo.gl/maps/UfcF9pTQzBepjH4d9
5. Wangjuntr Golf Park
ออกแบบโดย: ม.ล. ประสบชัย เกษมสันต์ / คุณปิยชัย เกษมสันต์ / คุณประเสริฐ สุขุมานันท์ และ คุณดำรงค์ ศรีประเสริฐ
Signature Hole: หลุม 14 พาร์ 4
“Beautiful Beast” เป็นพาร์ 4 ที่สวยที่สุดหลุมหนึ่งก็ว่าได้ ความสุขและความท้าทายของหลุมนี้ คือการตีจากยอดเขาสูงลงไปสู่แฟร์เวย์ที่ต่ำลงไปกว่า 70 เมตร เสมือนกับตีกอล์ฟจากยอดตึกดุสิตธานีลงไปยังสวนลุมพินี ใครไม่เคยก็ต้องไปลองดู นอกจากนี้นักกอล์ฟจะพบกับความงดงามของทะเลสาบในหุบเขา และดอกไม้บานสะพรั่งในฤดูหนาวด้วย
เมนูแนะนำ: หมูป่าผัดพริกแกง และ กวางผัดพริกไทย
ที่ตั้ง: https://goo.gl/maps/719sW78onmws9vEZ8
6. THE Emerald Golf Club
ออกแบบโดย: Nick Faldo และ Desmond Muirhead
สนามกอล์ฟสไตล์คันทรีท่ามกลางทิวเขา ออกแบบให้กลมกลืนกับลักษณะป่าฝนที่มีบ้านของนกนานาชนิด สนามที่ดูสงบร่มรื่นแห่งนี้มีแฟร์เวย์ที่สวยงาม มีกรีนที่เป็นลักษณะเหมือนเนินเขา มีหลุมพาร์ 3 ที่ไม่ง่ายต่อการเล่น และมีอุปสรรคน้ำผสมผสานอยู่เป็นระยะ ต้องใช้ความแม่นยำในการไดร์ฟสูงมากในการที่จะตีลงแฟร์เวย์ได้ดี
Signature Hole: หลุม 9 พาร์ 5
เมนูแนะนำ: ซี่โครงหมูย่าง
ที่ตั้ง: https://goo.gl/maps/stQu1rNXQDrRytv9A
พิเศษช่วง 1 มี.ค. – 31 พ.ค. นี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานระยอง จัดโปรโมชันรวมกรีนฟี รถกอล์ฟ แคดดี้ ราคาพิเศษ เฉพาะวันธรรมดาเท่านั้น รีบหน่อยนะ สิทธิ์มีจำนวนจำกัด!!
เรียบเรียงโดย golfdigg
จองกรีนฟี ออกรอบกว่า 150 สนามกอล์ฟทั่วไทยกับ golfdigg ได้แล้ว
บนเว็บไซต์ หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันฟรีได้ที่