Article
ย้อนไทม์ไลน์ชีวิตจริง รู้ไว้ก่อนดู ‘โปรเม อัฉริยะ ต้องสร้าง’
สำหรับตัวอย่างภาพยนตร์ตัวสมบูรณ์ของ โปรเม อัฉริยะ ต้องสร้าง ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงของ ก้านเหล็กขวัญใจชาวไทย โปรเม เอรียา จุฑานุกาล วันนี้ golfdiggTODAY พามาย้อนไทม์ไลน์ จากตัวอย่างล่าสุดก่อนจะไปดูกันในโรงภาพยนตร์ครับ
สำหรับตัวอย่างภาพยนตร์ฉบับสมบูรณ์ของ ‘โปรเม อัฉริยะ ต้องสร้าง’ ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงของ ก้านเหล็กขวัญใจชาวไทย “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล วันนี้ golfdiggTODAY พามาย้อนไทม์ไลน์ จากตัวอย่างล่าสุดก่อนจะไปดูกันในโรงภาพยนตร์ครับ
เริ่มด้วยนักแสดงผู้ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของโปรเม นะครับ สำหรับในภาพยนตร์ โปรเมอัจฉริยะต้องสร้าง ของทาง Tranformation file ผลงานการกำกับของ ธนวัฒน์ เอี่ยมจินดา ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงของ ก้านเหล็กขวัญใจชาวไทย โปรเม เอรียา จุฑานุกาล โดยนักแสดงที่รับบทในภาพยนตร์มีดังนี้
เอก ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ รับบท คุณพ่อสมบูรณ์ จุฑานุกาล
พ่อผู้ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อทุ่มเทกับการปั้นลูกๆ ให้เป็นนักกีฬากอล์ฟระดับโลก
เปิ้ล หัทยา วงษ์กระจ่าง รับบท คุณแม่นฤมล ติวัฒนาสุข
หญิงแกร่งผู้คอยซัพพอร์ตและอยู่เคียงข้างในทุกๆ ช่วงเวลาของโปรโม และโปรเม
คริสซี่ กฤษณ์สิรี สุขสวัสดิ์ รับบท โปรเม เอรียา จุฑานุกาล
ลูกสาวคนที่สองของบ้านจุฑานุกาล ฉายแววนักกอล์ฟตั้งแต่เด็ก จึงถูกพ่อจับมาฝึกซ้อมพร้อมกับพี่สาว โดยหวังให้เป็นนักกอล์ฟระดับโลก
ปริม อัจฉรียา โพธิพิพิธธนากร รับบท โปรโม โมรียา จุฑานุกาล
พี่สาวของเม ด้วยความที่เกิดและถูกเลี้ยงดู ฝึกซ้อมมาพร้อมน้องสาว ทำให้เธอกลายเป็นทั้งพี่-เพื่อนในเวลาเดียวกัน และเป็นคนที่อยู่ข้างเธอทุกช่วงสำคัญของชีวิต
โดยในตัวอย่างล่าสุดของภาพยนตร์ ‘โปรเม อัฉริยะ ต้องสร้าง’ ที่เพิ่งปล่อยตัวอย่างตัวสมบูรณ์เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา เปิดภาพด้วย โปรเม เอรียา จุฑานุกาล กำลังเดินอยู่บนแฟร์เวย์ในการแข่งขันกอล์ฟ และมีเสียงของที่พูดขึ้นมาว่า
“รู้ใช่มั้ยว่าทำไมตอนนั้นผมตกลงเป็นแคดดี้ให้คุณ เพราะทุกคนในโลกของกอล์ฟสมควรจะรู้จักคุณ”
ซึ่งในตรงนี้ผมไม่แน่ใจนะครับ ในความเห็นส่วนตัว ผมคิดว่า คนที่เป็นคนพูดในภาพยนตร์นั้นจะใช่ ‘เลส เลิร์ก’ รึเปล่า เพราะด้วยไทม์ไลน์ในภาพยนตร์ น่าจะเป็นในช่วงของปี 2016 ระหว่างที่โปรเมเดินสายแข่ง ทั้งคู่เคยได้ร่วมงานกันในปี 2016 และในช่วงต้นปีของ 2017 จนถึงปี 2018 ก่อนที่จะเปลี่ยนแคดดี้เป็น ‘แดเนียล เทย์เลอร์’ ในฤดูกาล 2019
โดยแดเนียลเป็นแคดดี้และคู่หมั้นของก้านเหล็กสาวชาวสวีดิชเพอร์นิลลา ลินด์เบิร์ก เจ้าของแชมป์ 2018 ANA Inspiration Lindberg และเริ่มร่วมงานกับ โปรเม เอรียา จุฑานุกาล ในการแข่งขันแรกของแอลพีจีเอ รายการ Diamond Resorts Tournament of Champions เมื่อต้นปี 2019 ที่ผ่านมา
และในฉากถัดมาเราจะเห็นภาพของโรงพยาบาล ที่มีตัวเอกของเรา โปรเม กำลังยืนอยู่บนเตียงผู้ป่วย น่าจะเป็นเหตุการณ์ระหว่างที่โปรเม เดินสายแข่งขันในอเมริกาในปี 2013 ขณะนั้นอายุ 17 ปี ในการแข่งขันรายการ Wegmans LPGA Championship โปรเมประสบอุบัติเหตุลื่นล้มจากแท่นทีออฟ กระดูกเคลื่อนและเอ็นฉีกขาด ระหว่างการฝึกซ้อมในวันแรก ต้องถอนตัวออกจากการแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์รายการที่ 2 ของปี จนต้องเดินทางกลับประเทศไทยมาผ่าตัดไหล่ขวาที่เอ็นฉีกที่โรงพยาบาลกรุงเทพ และพักรักษาตัวกว่า 1 ปีเต็ม ซึ่งทำให้อันดับโลกของโปรเมที่อยู่ในอันดับที่ 18 นั้น ตกไปอยู่ในอันดับ 235
ก่อนที่ตัวอย่างภาพยนตร์จะปูเข้าเรื่องราวชีวิตของโปรเม ตั้งแต่วัยเด็ก
“ตอน 9 ขวบที่เก่งกว่าเด็กทั้งประเทศ”
โปรเมสามารถติดทีมชาติกอล์ฟเยาวชนตั้งแต่ตอนอยู่ประถมศึกษา เริ่มเข้าสู่การเป็นนักกอล์ฟอาชีพเมื่อปี 2012 คว้ารางวัลนักกอล์ฟเยาวชนหญิงดีเด่นของสมาคมกอล์ฟเยาวชนสหรัฐฯ (AJGA) 2 ปีซ้อนในปี 2011- 2012 ในช่วงแรกที่แข่งในเลดีส์ยูโรเปียนทัวร์ โปรเมก็คว้าแชมป์ครั้งแรกจาก Lalla Meryem Cup ที่ประเทศโมร็อกโกทำให้ติดอันดับ 15 ของโลก
แต่อย่างที่ทราบกันดีว่า ทั้งโปรโม-เม นั้นถูกคุณพ่อเข้มงวดเรื่องของการเล่นกอล์ฟตั้งแต่เด็ก ซึ่งภาพยนตร์ได้ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของวัยเด็กของทั้งสองคน โดยทั้งสองคนเคยเล่าผ่านรายการและสัมภาษณ์กับหลาย ๆ สื่อว่า ชีวิตในวัยเด็กของทั้งสองคน จะต้องมีเป้าหมายตลอดเวลา ฝึกซ้อมหนัก ไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตแบบเด็กทั่วไปที่ ทำการบ้านเสร็จได้เที่ยวเล่น ต้องซ้อมกอล์ฟแทบทุกวัน ใช้ชีวิตกับอะไรที่เป็นกอล์ฟเยอะจนไม่มีชีวิตที่เป็นวัยรุ่น
โปรเม เคยบอกว่า รู้สึกเหนื่อย แต่ในทุก ๆ วันเราตื่นมามีเป้าหมาย เรียนรู้เพื่อให้มาถึงจุดนี้ และสิ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จทุกวันนี้ คือ ครอบครัว ที่ให้ทำในสิ่งที่เรารัก สิ่งหนึ่งที่รู้มาตลอดคือ พวกเขาจะเชื่อว่าเราทำได้ถึงแม้ว่าในวันที่แย่ที่สุดก็ยังเชื่อว่าเราทำได้
โดยกิจวัตรประจำวันของทั้งสองคนในช่วงวัยเด็ก ตั้งแต่ประถมศึกษาปีที่ 3-4 จนถึง มัธยมศึกษาปีที่ 6 คือ ตื่นเช้ามาจะต้องไปวิ่งก่อนที่จะเข้าโรงเรียนในตอนเช้า พอเข้าโรงเรียนเสร็จคุณพ่อก็คุยกับโรงเรียนว่า จะต้องขอเลิกเที่ยง เพื่อออกไปซ้อมกอล์ฟจนถึงเวลา 6 โมงเย็น ก็ต้องไปว่ายน้ำกับทีมถึง 3 ทุ่ม ทุกวันเป็นแบบนี้ ในตอนเรียนก็ไม่ได้เรียนกับเพื่อน แต่จะมีครูมาสอนพิเศษให้ เพื่อที่จะได้เรียนทันเพื่อน
“1 สัปดาห์หลังการแข่งขัน Honda LPGA Thailand 2013 ครอบครัว จุฑานุกาล บุกอเมริกา !!! “
ในตัวอย่างของภาพยนตร์ในฉากนี้ จะเป็นช่วงเวลาที่ทั้งคู่เข้าสู่ทัวร์ตอนอายุได้ 17-18 ปี โดยเริ่มแรกนั้นต้องแยกกันไป โปรเมไปกับพ่อเล่นในยูโรเปี้ยนทัวร์ก่อน ส่วนโปรโมไปกับแม่ในแอลพีจีเอ จนได้รับเชิญให้เข้ามาเล่นรายการแอลพีจีเอที่สหรัฐอเมริกาด้วย ซึ่งในช่วงปลายปี 2013 โปรเม ก็ตัดสินในเทิร์นโปรเพื่อเข้าเล่นในแอลพีจีเอ
ซึ่งเป้าหมายของคุณพ่อสมบูรณ์ คือการทำให้ทั้ง โมและเม กลายเป็นนักกอล์ฟระดับโลก ที่ครอบครัวจุฑานุกาลเดินสายพาทั้งสองคนแข่งขันที่สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ทั้งสองคนอายุ 12 – 13 ปี เริ่มจากไปอยู่ครั้งละ 2 – 3 เดือน แล้วเพิ่มเป็น 6 เดือน คุณพ่อสมบูรณ์ เปิดเผยด้วยว่า ครอบครัวเคยตัดสินใจขายบ้านและรถยนต์ ช่วงที่ต้องเดินทางไปแข่งขันที่สหรัฐฯ เนื่องจากต้องการหาประสบการณ์และต้องมีค่าใช้จ่ายมาก โดยครอบครัวเดินทางไปดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งเงินทั้งหมดประมาณ 20 กว่าล้านบาท เดินสายแข่ง หาโค้ชฝึกซ้อม เพื่อที่จะให้ทั้งคู่ได้เดินในเส้นทางของนักกอล์ฟมืออาชีพ
และฉากก็ได้ตัดมาที่บทสนทนาของคนสองคนที่ว่า “กลับไปเขียนสกู๊ปรอได้เลยนะว่าครอบครัว จุฑานุกาลบุกอเมริกา” ซึ่งในตรงนี้ผมไม่แน่ใจว่าบุคคลที่พูดนั้น จะเป็นใครระหว่าง คุณอา ไตรภพ ลิมปพัทธ์ หรือ คุณอาพิศณุ นิลกลัด แต่ผมเดาว่าน่าจะเป็นท่านหลังซะมากกว่าเพราะเนื่องด้วยในช่วงนั้นคุณอาพิศณุ นิลกลัด ได้คลุกคลีและผลักดันทั้งโปรโม และ โปรเม ตั้งแต่ในช่วงเด็ก ๆ ผลักดันในรายการ รวมทั้งผลักดันให้เข้ามาเล่นในศึก Honda LPGA Thailand ที่จัดขึ้นที่ สยามคันทรีคลับ พัทยา ซึ่งในช่วงนั้นทางช่อง 7 สี เป็นผู้ดูแลอยู่ ก็ต้องมาติดตามในภาพยนตร์กันนะครับ ว่า คุณอา ที่พูดถึงนี้จะตรงกับ คุณอาพิศณุ นิลกลัด ที่ผมเดาไว้หรือไม่ ?
ก่อนที่ตัวอย่างภาพยนตร์จะเล่าย้อนไปในการแข่งขัน Honda LPGA Thailand 2013 พร้อ มกับพูดว่า
“ถ้าลูกนี้พัตต์ลงก็จะเป็นคนไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ LPGA”
ซึ่งคำพูดนั้นเปรียบเป็นเสมือนกับหินน้ำหนักมหาศาลที่เด็กคนหนึ่งจะต้องแบกรับในการแข่งขันระดับ LPGA ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งผลสรุปที่ได้ในปีนั้น คือ ภาพของ ‘โปรเม’ เอรียา จุฑานุกาล ที่ร่ำไห้ซบไหล่ ‘โปรโม’ โมรียา พี่สาวหลังเล่นหลุมสุดท้าย จากการพลาดออกทริปเปิ้ลโบกี้
ภาพเหตุการณ์ในวันนั้น ในรอบสุดท้ายของ การแข่งขัน Honda LPGA Thailand 2013 ‘โปรเม’ วัยเพียง 17 ปี ขึ้นนำในวันสุดท้าย หลังจากที่ผลัดกันขึ้นเป็นผู้นำ กับ ปาร์ค อินบี ก้านเหล็กชาวเกาหลีใต้ และโปรเม ก็สามารถขึ้นนำ ปาร์ค อินบี สองสโตรกขณะที่เล่นหลุมสุดท้าย แต่เมื่อถึงหลุม 18 พาร์ 5 ในช็อต 2 โปเมตีตกไปในบังเกอร์ลูกเข้าไปซุกอยู่ในทราย ทำให้ยอมเสียดรอปเอาลูกมาตีชอทที่ 4 แต่ก็ยิงออกไปไกล ขณะที่ในชอทที่ 5 โปเมพัตต์สั้นเกินไป และในชอทที่ 6 ก็พัตต์ยาวเลยหลุมออกไป ต้องมาเล่นต่อในชอทที่ 7 ซึ่งโปเมพัตต์ระยะ 2 ฟุตลูกสะบัดปากหลุมหลุดออกไปนิดเดียว ต้องซ้ำในชอทที่ 8 ซึ่งเป็นทริปเปิ้ลโบกี้ พลาดการคว้าแชมป์ไปอย่างน่าเสียดาย
เวลาผ่านไป โปรเมก็ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อถึงเหตุการณ์นั้นว่า “ประสบการณ์ตนเองก็ยังไม่เยอะมาก ซึ่งพอมองย้อนกลับไป ทำให้ตัวของโปรเมคิดว่า เรามีความสามารถพอที่จะชนะได้ ‘เพราะฉะนั้นเราก็แก้ไขในสิ่งที่เราไม่ดีพอ’ ให้ดีขึ้นแค่นั้นเอง”
แต่ต้องยอมรับว่า โปรเม ตอนนั้นเศร้าอยู่เกือบปีเลยทีเดียว เพราะพอจะหายเศร้าก็มีคนพูดถึงเหตุการณ์ในวันนั้นอีก ก็ทำให้เธอกลับมาเศร้าอีกครั้ง แต่ตอนนี้พอโตขึ้นมีตรรกระในการคิดมากขึ้นก็เข้าใจกับเรื่องนั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อเอ่ยชื่อ โปรเม เอรียา จุฑานุกาล กับ Honda LPGA Thailand
ปี 2013 ไม่ได้เป็นปีแรกของเธอเท่านั้น แต่เส้นทางกีฬากอล์ฟของเธอในรายการนี้ เธอเริ่มจากการฃเป็นนักกอล์ฟเยาวชนที่เข้าร่วมการแข่งขันรายการ Honda LPGA Thailand 2007 อีกด้วย ขณะนั้นโปรเมในวัย 11 ปี ก็เริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะนักกอล์ฟที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ได้ลงแข่งขันในรายการแอลพีจีเอทัวร์ ก่อนจะจบจบการแข่งขันในปีนั้นที่อันดับ 51
หลังจากนั้นในปี 2011 โปรเม ได้สร้างผลงานเป็นที่น่าพอใจกว่าครั้งแรก ด้วยการจบที่อันดับ 8 ร่วม และเป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่จบลงใน 10 อันดับแรก โดยในปีเดียวกันยังไปสร้างผลงานในระดับเยาวชน ด้วยการคว้ารางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมหญิงแห่งปีของสมาคมกอล์ฟเยาวชนสหรัฐอเมริกา (เอเจจีเอ)
ต่อมาในปี 2012 เธอกลับมารายการนี้อีกครั้งเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งครั้งนี้ ‘โปรเม’ ทำผลงานได้ดีจบลงที่อันดับ 12 ร่วม ก่อนตัดสินใจเทิร์นโปรในปลายปี
ก่อนที่ตัวอย่างภาพยนตร์จะตัดเข้าซีนดราม่าของเรื่อง อันนี้ผมขอข้ามไปนะครับ ไปติดตามเรื่องในภาพยนตร์ในวันฉายจริงเอาดีกว่าครับ
ถัดมาก็จะเป็นเรื่องราว ที่ตัวละครสองตัว นั่นคือโปรเม พูดกับ โปรโม ว่า “ฉันจะไปเอามือหนึ่งของโลกมาให้ได้” ก่อนที่ภาพจะตัดมาให้วันของการแข่งขันที่ คุณแม่ โปรโม เดินติดตามโปรโมในการแข่งขัน
ต่อมาเป็นฉากที่โปรเมล้มลงกลางบังเกอร์ ซึ่งน่าจะเป็นเหตุการณ์ตามที่ผมคาดเดาคือ ในปี 2015 ในการแข่งขันรายการ Wegmans LPGA Championship โปรเมประสบอุบัติเหตุลื่นล้มจากแท่นทีออฟ กระดูกเคลื่อนและเอ็นฉีกขาด ระหว่างการฝึกซ้อมในวันแรก ต้องถอนตัวออกจากการแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์รายการที่ 2 ของปี และต้องเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อผ่าตัดไหล่ขวาที่เอ็นฉีก แต่ก็ไม่แน่ใจนะครับว่าจะเป็นเหตุการณ์เดียวกับมั้ย เพราะตามเหตุการณ์จริงโปรเมลื่นล้มที่แท่นทีออฟ ส่วนในตัวอย่างหนังเป็นภาพของบังเกอร์
จนในปี 2016 โปรเม ก็สามารถปลดล็อคแชมป์แรกของตัวเองในการแข่งขัน LPGA รายการ Yokohama Tire LPGA Classic ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่มือ 1 ของโลก
และหลังจากที่โปรเม สามารถคว้าแชมป์แรกได้แล้ว ในสัปดาห์ต่อ ๆ มา ก็ไปคว้าแชมป์อีก 4 รายการ King-smill Championship, รายการ Volvik Championship, รายการ RICOH Women’s British Open ปิดท้ายที่ รายการ Canadian Pacific Women’s Open จนกลายเป็นนักกอล์ฟหญิงที่ทำเงินรางวัลสูงสุดใน LPGA และ Rolex Player Of The Year รางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี และทำให้อันโลกจาก 20-30 ขยับขึ้นมามาที่ 6 ของโลกทันที
แล้วจุดเริ่มต้นของการขึ้นสู่มือหนึ่งของโลกของโปรเม เอรียา จุฑานุกาล ก็เริ่มขึ้นครั้งแรกในเดือน มิ.ย.2017 ครั้งที่ 2 เดือน ก.ค. 2018 และครั้งที่ 3 เดือนต.ค. 2018 ก่อนโปรสาววัย 22 ปี จะคว้าแชมป์เรซ ทู เดอะ ซีเอ็มอี โกลบรับเงินรางวัลโบนัส 1 ดอลลาร์ (ราว 32 ล้านบาท) ในการแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์สุดท้ายของปีที่ฟลอริด้า สหรัฐฯ ในรายการ ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ และกลายเป็นนักกอล์ฟคนแรกในประวัติศาสตร์แอลพีจีเอทัวร์ที่คว้ารางวัลครบทุกรางวัลของทัวร์ในฤดูกาลเดียวกัน
โดยในปี 2018 โปรเม ลงแข่งขันทั้งสิ้น 29 รายการ ได้แชมป์ 3 รายการ ติดอันดับท็อปเท็น 17 รายการ รวมทั้งรางวัลต่าง ๆ ได้แก่ 2018 Rolex Annika Major Award (แอนนิก้า อะวอร์ด ผลงานแข่งขันเมเจอยอดเยี่ยม), No.1 in the Rolex Women’s World Golf Rankings มือ1 โลก, Race to the CME Globe Champion, Vare Trophy สกอร์เฉลี่ยดีที่สุด, LEADERS Top 10 จบ 10 อันดับแรกมากที่สุด (ทำได้ 17 รายการ), 2018 Rolex Player of the Year นักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี
ซึ่ง golfdiggTODAY เคยถามโปรเม เกี่ยวกับความรู้สึกที่ได้มือ 1 ของโลกว่า รู้สึกอย่างไร โปรเมตอบกับเราว่า
และทั้งหมดนี้คือไทม์ไลน์ในตัวอย่างภาพยนตร์ที่ golfdiggTODAY ได้ถอดออกมาเพื่อให้แฟนๆ ได้ ไว้เป็นข้อมูลก่อนชมภาพยนตร์ โปรเม อัฉริยะ | ต้อง | สร้าง ในวันที่ 15 ส.ค. ที่จะถึงนี้นะครับ
เรียบเรียงโดย golfdigg
จองกรีนฟี ออกรอบกว่า 150 สนามกอล์ฟทั่วไทยกับ golfdigg ได้แล้ว
บนเว็บไซต์ หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันฟรีได้ที่