Article
หวนดูทำเนียบแชมป์ Honda LPGA Thailand กับโมเม้นท์แห่งชัยชนะกว่า 13 ปี
เมื่อการแข่งขันรายการ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ รายการกอล์ฟสตรีรายการแรกและรายการเดียวในไทย ที่ครองใจแฟนกอล์ฟมาอย่างยาวนาน กำลังจะกลับมาอีกครั้ง
วันนี้ golfdiggTODAY จะพาทุกคนย้อนชมโมเม้นท์แห่งชัยชนะของแชมป์ตลอด 13 ปีที่ผ่านมาบนสังเวียนฮอนด้าฯ กันสักหน่อย ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้นระหว่างวันที่ 21-24 ก.พ. นี้
2549 ฮีวอน ฮาน
เริ่มกันที่ ฮีวอน ฮาน โปรสาวจากโสมแดง ผู้คว้าชัยใน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์คนแรกและเป็นชัยชนะครั้งสุดท้ายในอาชีพนักกอล์ฟของเธอ
โดยในวันสุดท้าย ฮาน ไล่ตามหลัง นิโคล คาสแตรล อยู่ถึง 5 สโตรค ก่อนจะขึ้นแซงด้วยการจบที่ 14 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์แอลพีจีเอเป็นครั้งที่ 6 ให้กับตัวเอง
2550 ซูซานน์ เพทเทอร์สัน
ดูเหมือนว่าในปีนั้น ซูซานน์ เพทเทอร์สัน จะเล่นดีจนไม่สามารถพลาดเงินรางวัล 195,000 เหรียญไปได้ แม้เธอจะเริ่มขึ้นนำตั้งแต่ต้นจนจบ แต่เมื่อผ่านไป 54 หลุม เธอกลับตามหลัง ลอรา เดวีส์ อยู่ 7 สโตรค ทำให้เธอต้องฮึดสู้ด้วยการ ตี 9 อันเดอร์พาร์ 63 เพื่อขึ้นนำ แต่ ลอรา นั้นก็ได้ต่อสู้กับ เพทเทอร์สัน อย่างสูสีในรอบสุดท้าย จนตีเสมอในหลุมที่ 17 แต่ท้ายที่สุด เพทเทอร์สัน กลับคว้าชัยไปได้ด้วยการพัตต์อีเกิ้ลจาก 15 ฟุต เก็บถ้วยใบที่ 5 ในแอลพีจีเอไปได้อย่างเต็มภาคภูมิ
2551 หยุดการแข่งขันเนื่องจากปรับตาราง
2552 ลอเรนา โอชัว
แม้ปัจจุบัน ลอเรนา โอชัว จะประกาศลาวงการกอล์ฟไปแล้ว แต่ชื่อของเธอได้เริ่มเป็นที่กล่าวขานมาตั้งแต่ปี 2552 ที่เธอเริ่มเข้ามาเล่นใน แอลพีจีเอ และประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ในปีนั้น
โดย โอชัว ออกรอบในวันสุดท้ายในตำแหน่งที่สองร่วมกับ บริททานี แลง และตามหลังผู้นำ พอลลา ครีมเมอร์ อยู่ 3 สโตรค โอชัว และ ครีมเมอร์ ได้ทีออฟในกลุ่มสุดท้ายและใน 9 หลุมหลัง โอชัว ได้ยิงเบอร์ดี้ที่หลุม 11 และ 13 ก่อนที่จะได้โบกี้ที่หลุม 16 พาร์ 3,171 หลา แต่เธอก็แก้ไขได้ด้วยการพัตต์เบอร์ดี้ระยะ 5 ฟุตในหลุมที่ 17 จนพิชิตชัยชนะในรายการนี้ได้สำเร็จ
2553 ไอ มิยาซาโตะ
ไอ มิยาซาโตะ นักกอล์ฟสาวสวยจากแดนปลาดิบคนนี้ คือผู้คว้าชัยในการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2010 ด้วยสกอร์ 9 อันเดอร์พาร์ 63 ซึ่งเฉือนเอาชนะแชมป์เก่าอย่าง ซูซานน์ เพทเทอร์สัน ไปเพียงสโตรคเดียวเท่านั้น
โดยการแข่งขันวันสุดท้าย เธอตามหลังผู้นำอย่าง เพทเทอร์สัน ถึง 5 สโตรค แต่เธอสามารถตามทันได้ด้วยการตีเข้ามา 10 อันเดอร์พาร์ใน 16 หลุมสุดท้าย และทำเบอร์ดี้อีกในหลุมที่ 18 ด้วยการชิพอิน โดยในตอนนั้นเรียกว่าเป็นศึกระหว่างผู้เล่นสองคนในการแข่งขันเพื่อเข้าเส้นชัยที่สยามคันทรีคลับเลยก็ว่าได้
2554 เจิ้ง หยานี
เจิ้ง หยานี โปรสาววัย 22 ปีในตอนนั้น กับเจ้าของรางวัล Rolex Rankings No.1 เริ่มต้นปี 2011 ด้วยชัยชนะติดต่อกันใน รายการเลดีส์ ยูโรเปียน ทัวร์ , รายการออสเตรเลียน โอเพน และรายการออสเตรเลียน เลดีส์ มาสเตอร์ส ก่อนเปิดฤดูกาลการแข่งขันของ แอลพีจีเอ
เจิ้ง กลายเป็นผู้นำข้ามคืนและยิง 6 เบอร์ดี้ใน 13 หลุมแรก ก่อนจะพลาดด้วยโบกี้เดียวที่หลุม 14 แต่ เจิ้ง ก็กลับมาขึ้นนำอีกครั้งด้วยการทำเบอร์ดี้ที่หลุม 15 และจบลงอย่างสวยงามที่ 15 อันเดอร์พาร์ 273 ทิ้งห่าง มิเชล วี 5 สโตรก คว้าแชมป์ แอลพีจีเอ รายการที่ 6 ของเธอ
2555 เจิ้ง หยานี
ถือว่าเป็นโปรสาวคนแรกในรายการนี้เลยก็ว่าได้ ที่สามารถคว้าแชมป์ 2 สมัยติดกัน สำหรับ เจิ้ง หยานี โดยโปรสาวจากไต้หวันเริ่มออกสตาร์ทได้ดีและเกือบตีลูก approach ระยะ 104 หลาลงหลุมที่ 18 พาร์ 5 ในวันสุดท้าย
ก่อนหน้านี้ เจิ้ง ทำเบอร์ดี้ได้ที่หลุม 17 จนขึ้นนำ 1 สโตรก หลังจากนั้น ไอ มิยาซาโตะ ได้ตีชอท 3 ขึ้นไปเสมอในหลุมที่ 18 แต่ในหลุมสุดท้ายนี้ เจิ้ง กลับตามมาตีชอทขึ้นกรีนได้อย่างสวยงามและคว้าแชมป์เป็นปีที่สองติดต่อกันไปในที่สุด
2556 อินบี ปาร์ค
อินบี ปาร์ค ผู้ชนะตำแหน่ง LPGA Official Money และ Vare Trophy ในปี 2555 ได้เริ่มต้นปี 2556 ด้วยฟอร์มที่ร้อนแรง คว้าชัยด้วยการนำ 1 สโตรกใน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์
โดยชัยชนะครั้งนั้น แม้แต่ ปาร์ค เองยังตกใจเล็กน้อย เพราะก่อนหน้านี้เธอตามหลังผู้นำ เอรียา จุฑานุกาล อยู่ถึงสองสโตรก แต่เพียง 15 นาทีหลังจากนั้น ปาร์ค กลับกลายเป็นผู้ชนะทันที จากการที่ เอรียา พัตต์ในระยะ 3 ฟุตพลาดทำดับเบิ้ลโบกี้ในหลุมที่ 18 พาร์ 5
2557 แอนนา นอร์ดควิสท์
แอนนา นอร์ดควิสท์ นักกอล์ฟสาววัย 26 จากสวีเดน ต้องต่อสู้กับมือระดับโลกอย่าง อินบี ปาร์ค และ มิเชล วี กันสุดฤทธิ์ในการแข่งขันวันสุดท้าย ก่อนปิดฉากด้วยสกอร์รวม 15 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์แอลพีจีเอ ครั้งที่ 3 หลังเว้นว่างมานานเกือบ 5 ปี
2558 เอมี หยาง
เอมี หยาง ต้องต่อสู้กับ สเตซี่ ลูอิส ในสองวันสุดท้าย และได้ขึ้นเป็นผู้นำร่วมก่อนถึงหลุมที่ 15 กระทั่ง ลูอิส พลาดทำดับเบิ้ลโบกี้ ในขณะที่ เอมี หยาง ทำเบอร์ดี้ได้พอดี ทำให้สกอร์เธอนำห่างถึง 3 สโตรก จนได้เป็นผู้ชนะในที่สุด
2559 เล็กซี ธอมป์สัน
นอกจาก เล็กซี ธอมป์สัน จะสามารถคว้าชัยแอลพีจีเอเป็นครั้งที่ 7 ให้กับตัวเองได้ เธอยังเป็นนักกอล์ฟอเมริกันคนแรกที่ชนะรายการนี้ในรอบ 10 ปี โดย เล็กซี เริ่มขึ้นนำตั้งแต่ต้นเกม ด้วยการเก็บสกอร์ 8 อันเดอร์พาร์ 64 ในรอบแรก แม้ว่าจะทำได้แค่พาร์สนาม 72 แต่ในวันที่สอง เล็กซี กลับมาเล่นได้ดีในสองวันสุดท้าย ด้วยการทำสกอร์ 64 อีกครั้งหนึ่งในวันเสาร์เพื่อขึ้นนำ 4 สโตรก ก่อนจะยิงอีก 4 อันเดอร์พาร์ 68 ในวันสุดท้ายและคว้าแชมป์ด้วยการทิ้งคู่แข่ง อิน จี ชุน ไปถึง 6 สโตรก
2560 เอมี หยาง
เอมี หยาง เอาชนะ โซ ยอน เรียว ในวันสุดท้ายและคว้าแชมป์รายการนี้เป็นครั้งที่สองภายในสามปี จากการทำเบอร์ดี้ที่หลุมสุดท้ายและจบที่ 68
โดย เอมี ได้ทำสถิติของการแข่งขันใหม่ด้วยสกอร์รวม 4 วัน 22 อันเดอร์พาร์ ซึ่งเฉือนสถิติเดิมของ ซูซานน์ เพทเทอร์สัน ในปี 2007 และ ไอ มิยาซาโตะ ในปี 2010 ไป 1 สโตรก
2561 เจสซิก้า คอร์ด้า
เจสซิก้า คอร์ดา ได้รับชัยชนะจากการแข่งขันแบบเป็นผู้นำตั้งแต่วันแรก จนถึงวันสุดท้าย เก็บสกอร์รวมที่ 25 อันเดอร์พาร์ (ซึ่งถือเป็นสถิติที่ดีที่สุดนับแต่มีการแข่งขัน) ทิ้งห่าง โมรียา จุฑานุกาล และ เล็กซี ธอมป์สัน แชมป์เก่าปี 2016 อยู่ 4 สโตรก โดยการชนะในรายการแข่งขันครั้งนี้ของคอร์ดา ถือได้ว่าเป็นการคว้าแชมป์ได้ครั้งแรกในรอบสามปีหลังจากเคยได้แชมป์ไซม์ดาร์บี้ แอลพีจีเอ มาเลเซีย เมื่อปี 2557
2562 จะเป็นใคร ?
ร่วมลุ้นและให้กำลังใจนักกอล์ฟสาวที่คุณชื่นชอบได้ในการแข่งขัน ‘ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2019’ ณ สนามสยามคันทรีคลับ พัทยา โอลด์ คอร์ส ระหว่างวันที่ 21-24 กุมภาพันธ์นี้
ซื้อบัตรได้แล้ววันนี้ ! หรือ คลิกดูรายละเอียด
เรียบเรียงโดย golfdigg
จองกรีนฟี ออกรอบกว่า 150 สนามกอล์ฟทั่วไทยกับ golfdigg ได้แล้ว
บนเว็บไซต์ หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันฟรีได้ที่