Connect with us

Article

สรุปสถิติ ‘ดาวดัง’ พีจีเอทัวร์ประจำ พ.ค.

“ชาฟเฟเล-แม็คอิลรอย-เพนดริธ-กอทเทอร์อัพ-ไรลีย์” ฉลองชัยชื่นมื่น

Published

on

ยุคทอง ‘ชาฟเฟเล’ แชมป์เมเจอร์แรกในอาชีพ

ซานเดอร์ ชาฟเฟเล ปลดล็อคคว้าแชมป์เมเจอร์แรกในอาชีพ ซึ่งนอกจากการตี 62 ในรอบแรกซึ่งเป็นสถิติสกอร์ต่ำสุดในการออกสตาร์ทรายการเมเจอร์ ชาฟเฟเล ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการหวดไม่เกิน 68 ในการแข่งขันอีกสามรอบ บนสนามที่ยากและยาว 7,609 หลา ทั้งนี้มีนักกอล์ฟที่คว้าแชมป์พีจีเอ แชมเปียนชิพ เพียง 5 คนที่ทำได้แบบนี้นับตั้งแต่ปี 1958 และไม่มีนักกอล์ฟคนใดทำได้เลยนับตั้งแต่ จิมมี่ วอล์กเกอร์ สร้างผลงานไว้ในปี 2016

            ถึงคิวของชาฟเฟเลที่ปลดล็อคซิวแชมป์เมเจอร์ครั้งแรกในอาชีพด้วยสกอร์รวม 21 อันเดอร์พาร์ 263 ทุบสถิติแชมป์สกอร์รวมต่ำสุดของการแข่งขันระดับเมเจอร์ ทำลายสถิติเดิมที่ บรู๊คส์ เคปก้า ทำไว้ ขณะเดียวกันยังเป็นการลงแข่งรายการเมเจอร์ครั้งที่ 28 ของชาฟเฟเล และชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นการจบในท็อปเท็นเป็นครั้งที่ 13 ซึ่งถูกกล่าวขานว่าเป็น “ลักกี้นัมเบอร์”  

LOUISVILLE, KENTUCKY – MAY 19: Xander Schauffele smiles with the Wanamaker Trophy after his one stroke victory in the final round of the 106th PGA Championship at Valhalla Golf Club on May 19, 2024 in Louisville, Kentucky. (Photo by Keyur Khamar/PGA TOUR via Getty Images)

            นอกจากนี้ยังเป็นการหยุดสถิติห่างหายจากการคว้าแชมป์ 679 วันได้สำเร็จ โดยโปรหนุ่มจากแคลิฟอร์เนีย เข้าร่วมแข่งขันที่วัลฮาลา กอล์ฟคลับ ด้วยฟอร์มที่ดีหลังได้รองแชมป์รายการเวลส์ ฟาร์โก แชมเปียนชิพ ในสัปดาห์ก่อนหน้า และเมื่อพิจารณาจากสถิตินับตั้งแต่ออกสตาร์ทฤดูกาล 2022-2023 ชาฟเฟเล ทำผลงานจบใน 10 อันดับแรก 20 รายการ รั้งอันดับสอง เป็นรองเพียง สกอตตี้ เชฟเฟลอร์ นักกอล์ฟมือหนึ่งของโลกที่ทำได้ 27 ครั้ง

            การคว้าแชมป์พีจีเอ แชมเปียนชิพ ยังเพิ่มโอกาสในการเป็นตัวแทนทีมสหรัฐอเมริกา ร่วมชิงชัยในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งชาฟเฟเลเป็นเจ้าของเหรียญทองคนล่าสุดด้วย โดยในการแข่งขันที่วัลฮาลา กอล์ฟคลับ ชาฟเฟเลไม่เสียโบกี้เลยในช่วง 9 หลุมแรก เป็นนักกอล์ฟที่ทำเบอร์ดี้สูงสุด 25 เบอร์ดี้ และมีสถิติตีออนกรีนอินเรกูเลชั่น 50 จาก 72 หลุม สถิติ Strokes Gained: Approach The Green +7.81 ดีที่สุดอันดับ 3 ตลอดการเล่นอาชีพของเจ้าตัว เขาทำ 7 เบอร์ดี้ในวันอาทิตย์ และจาก 7 ครั้งมีครั้งเดียวที่เป็นการพัตต์เบอร์ดี้ในระยะ 12 ฟุต พิสูจน์ให้เห็นถึงการตีที่แม่นยำ

‘แม็คอิลรอย’ ครองแชมป์เวลส์ ฟาร์โก สมัยที่ 4

รอรี่ แม็คอิลรอย ยอดโปรกอล์ฟจากไอร์แลนด์เหนือ คว้าแชมป์เวลส์ ฟาร์โก แชมเปี้ยนชิพ สมัยที่ 4 พร้อมรั้งอันดับ 1 สถิติตีไกลของสนามนี้ และรั้งอันดับ 2 สถิติตีออนกรีนอินเรกูเลชัน

มากกว่า 89 เปอร์เซนต์ของการไดรฟ์มีระยะเกิน 300 หลา เป็นอันดับ 2 ของตำแหน่งแชมป์เวลส์ ฟาร์โก แชมเปียนชิพ รองจากสถิติ 96.1 เปอร์เซนต์ที่เจ้าตัวทำไว้เมื่อคราวได้แชมป์ในปี 2021 ขณะเดียวกัน แม็คอิลรอย ยังรั้งอันดับ 4 สถิติ  putts per green in regulation และสถิติรวมอยู่อันดับ 7

            ชัยชนะครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการคว้าแชมป์ครั้งที่ 4 ที่ชาร์ล็อตต์ แต่ยังเป็นแชมป์พีจีเอทัวร์รายการที่ 26 ในอาชีพของโปรกอล์ฟจากไอร์แลนด์เหนือรายนี้ ติดอันดับ 11 ร่วมของสถิติทำเนียบแชมป์สูงสุดตลอดกาลของพีจีเอทัวร์เท่ากับ เฮนรี่ พิคาร์ด โดยในออกสตาร์ทรอบสุดท้ายวันอาทิตย์ แม็คอิลรอย มีสกอร์ตามหลัง ซานเดอร์ ชาฟเฟเล อยู่หนึ่งสโตรก และมาเร่งเครื่องในช่วง 9 หลุมหลัง ทำ 2 อีเกิ้ล ซึ่งเป็นครั้ง  3 เท่านั้นที่แชมป์รายการนี้ทำได้ในการระบบการเก็บสถิติ ShotLink 

CHARLOTTE, NORTH CAROLINA – MAY 12: Rory McIlroy of Northern Ireland talks with the media after the final round of Wells Fargo Championship at Quail Hollow Club on May 12, 2024 in Charlotte, North Carolina. (Photo by Ben Jared/PGA TOUR via Getty Images)

ในหลุมที่ 18  แม็คอิลรอยแอพโพรชตกน้ำด้านซ้ายของกรีน และแม้ปิดฉากด้วยดับเบิ้ลโบกี้ ก็ยังเอาชนะคู่แข่ง 5 สโตรก ซึ่งเป็นสถิติชนะห่างมากที่สุดในการเล่น 72 หลุมของพีจีเอทัวร์ นับตั้งแต่ปี 2003

            โดยในการแข่งขันสองวันสุดท้าย แม็คอิลรอยมีค่าเฉลี่ย  Strokes Gained: Total 13.01 สโตรก ดีกว่าผู้ที่รั้งอันดับสอง 3 สโตรก รวมทั้งทำสกอร์รวมสูงสุดในสองรอบสุดท้าย 10 อันเดอร์พาร์ และรั้งอันดับหนึ่ง Strokes Gained: Tee to Green  +8.65  และอันดับ 4  Strokes Gained: Putting  +4.35

‘เพนดริธ’ ชนะเลิศรายการเดอะ ซีเจ คัพ ไบรอน เนลสัน

ความหวังเข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกและเพรสซิเดนส์ คัพ ของ เทย์เลอร์ เพนดริธ มีลุ้นเป็นจริงขึ้น หลังเจ้าตัวทำเบอร์ดี้ที่หลุม 72 พร้อมคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการแรกได้สำเร็จในศึก เดอะ ซีเจ คัพ ไบรอน เนลสัน แต่การแข่งขันเพื่อแย่งตำแหน่งดังกล่าวก็ดุเดือดเช่นกัน เทย์เลอร์ กลายเป็นนักกอล์ฟจากแคนาดาคนที่ 2 ที่ได้แชมป์ในปีนี้ และเป็นคนที่ 5 ในสองฤดูกาลที่ผ่านมา

MCKINNEY, TEXAS – MAY 05: Taylor Pendrith of Canada poses with the tournament trophy after winning THE CJ CUP Byron Nelson at TPC Craig Ranch on May 05, 2024 in McKinney, Texas. (Photo by Mike Mulholland/Getty Images for The CJ Cup)

            เพนดริธ ทำผลงานได้ดีในหลุมพาร์ 4 ทำได้ 11 อันเดอร์พาร์ และทำสกอร์รวมในแข่งขันสองวันสุดท้ายดีที่สุดในอาชีพของเขาที่ 130 โดยตี 63 ในวันเสาร์ รวมถึงการทำอีเกิ้ลติดต่อกันสองหลุม และตลอดการแข่งขันสี่วันที่สนามทีพีซี เครก แรนซ์ เขาเสียโบกี้ 3 หลุม  

            ขณะเดียวกัน โปรกอล์ฟจากแคนาดา ซึ่งลงเล่นที่สนามทีพีซี เครก แรนซ์ ครั้งแรก รับมือกับความกดดันในการเบียดลุ้นแชมป์ช่วงสุดสัปดาห์ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยในการตี 130 ในสองรอบสุดท้าย เพนดริธขึ้นนำหรือนำร่วมตลอดยกเว้นเมื่อเข้าสู่การแข่งขันหลุมที่ 71 เขาโดน เบน โคห์ลส์ ที่เก็บเบอร์ดี้หลุมนี้พลิกแซงหนึ่งสโตรก แต่กลับมาชนะในหลุมที่ 72 พาร์ 5 หลังทำเบอร์ดี้ ขณะที่โคห์ลส์ ออกดับเบิ้ลโบกี้

‘กอทเทอร์อัพ’ ประเดิมคว้าแชมป์ไมร์เทิล บีช คลาสิค

            ในขณะที่ รอรี่ แม็คอิลรอย คว้าแชมป์ด้วยการเอาชนะคู่แข่ง 5 สโตรก ที่ ชาร์ล็อตต์ คริส กอทเทอร์อัพ ด้วยการระเบิดฟอร์มร้อนแรงในสองวันสุดท้ายของแข่งขันรายการไมร์เทิล บีช คลาสสิค ที่จัดครั้งแรก  ทำสกอร์ทิ้งห่างจากที่นำอยู่หนึ่งสโตรก ออกไปเป็น  6 สโตรก ด้วยผลงานการตี 65 และ 67 ในช่วงสุดสัปดาห์ กลายเป็นนักกอล์ฟคนที่ 7 ที่ชนะเลิศรายการพีจีเอทัวร์ครั้งแรกในปี 2024 ซึ่งเป็นการลงเล่นรายการที่ 27 ในทัวร์ของกอทเทอร์อัพ 

            อาวุธเด็ดในการพิชิตแชมป์ที่ดูนส์ คลับ ของกอทเทอร์อัพคือพัตเตอร์ มีค่าเฉลี่ย Strokes Gained: Putting 7.48  สโตรก เป็นสถิติสูงสุดอันดับ 3 ของตำแหน่งแชมป์พีจีเอทัวร์ในปี 2024 และสถิติการพัตต์เฉลี่ยรั้งอันดับ 6 และสถิติ putts per green in regulation อยู่อันดับ 8

            ในสนามนี้กอทเทอร์อัพ ทำไป 29 เบอร์ดี้หรือดีกว่า มากกว่าสถิติดีที่สุดของตัวเองก่อนหน้านี้ 6 เบอร์ดี้ โดยทำได้ในการแข่งขันรายการจอห์น เดียร์ คลาสสิค 2022 ซึ่งเขาจบอันดับ 4 ร่วม

            กอทเทอร์อัพทำได้เยี่ยมในการเล่น 9 หลุมหลัง เก็บแต้มได้ 15 อันเดอร์พาร์ เป็นที่ 1 ของสนามนี้ และยังรั้งอันดับ 1 ของสถิติ Strokes Gained: Total  +10.81 และ Putting +7.01

‘ไรลีย์’ ชนะเชฟเฟลอร์ในศึกชาร์ลส์ ชวาบ ชาลเลนจ์

เดวิส ไรลีย์ ลงเล่นรอบสุดท้ายกลุ่มเดียวกับ สกอตตี้ เชฟเฟลอร์ โปรกอล์ฟมือหนึ่งของโลก แต่ไรลีย์ ไม่เกรงกลัว เอาชนะไป 5 สโตรก ในการแข่งขันรายการชาร์ลส์ ชวาบ ชาลเลนจ์ และเป็นการคว้าแชมป์ประเภทบุคคลครั้งแรกในเวทีพีจีเอทัวร์ด้วย หลังจากก่อนหน้านี้จับคู่กับ นิค ฮาร์ดี้ คว้าแชมป์ซูริค คลาสสิค ออฟ นิวออร์ลีนส์ ในปี 2023

            ไรลีย์ รั้งท็อป 5 ของ 6 สถิติด้าน Strokes Gained โดยนำจ่าฝูง  Approach the Green (+1.98), Tee to Green (+2.86) และ Total (+4.33) ซึ่งเป็นสถิติดีที่สุดในอาชีพของไรลีย์ นอกจากนี้เขายังครองอันดับ 1 ร่วมในผลงานการเล่นที่หลุมพาร์ 3 และพาร์ 4 มีค่าเฉลี่ย  4.13  และ 10.18  ช็อตในสนามนี้ ตามลำดับ

โปรกอล์ฟหนุ่มวัย 28 ปี ยังทำผลงานได้โดดเด่นในการเล่น 3 หลุมสุดท้าย ทำไป 7 เบอร์ดี้ เสียเพียงโบกี้เดียว มีสถิติค่าเฉลี่ยเป็นผู้นำของทัวร์นาเมนท์นี้ที่ 6.09 ช็อต ขณะที่ฟอร์มการพัตต์ก็ทำได้เยี่ยมเช่นกัน รั้งอันดับ 1 สถิติ  putts per green in regulation และสถิติการพัตต์ระยะ 10 ฟุต คิดเป็น  98.51 เปอร์เซนต์

            ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ไรลีย์ทำอันดับพุ่งพรวดทั้งในตารางคะแนนเฟดเอ็กซ์คัพ ที่ขยับจาก 151 ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 50 และอันดับโลกจาก 270 มาอยู่ที่อันดับ 78 ของโลก

 ไม่พลาดทุกการแข่งขัน แฟนกีฬากอล์ฟสามารถรับชมการแข่งขันกอล์ฟพีจีเอทัวร์ ได้ทาง TrueSports 5 และ DAZN

ขอบคุณภาพ Getty Images



เรียบเรียงโดย golfdigg

จองกรีนฟี ออกรอบกว่า 150 สนามกอล์ฟทั่วไทยกับ golfdigg ได้แล้ว
บนเว็บไซต์ หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันฟรีได้ที่

Copyright © 2019 golfdiggTODAY, powered by golfdigg.